วิธีดูแลสระว่ายน้ำให้สะอาดใสอยู่เสมอ ฉบับปี 2025
วิธีดูแลสระว่ายน้ำให้สะอาดใสอยู่เสมอ ฉบับปี 2025 การมีสระว่ายน้ำที่ใสสะอาดไม่เพียงช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการใช้งานอย่างเต็มที่ แต่ยังส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้งานด้วย บทความนี้จะนำเสนอเคล็ดลับในการดูแลสระว่ายน้ำให้สะอาดใสอยู่เสมอในปี 2025 โดยใช้เทคนิคและอุปกรณ์ที่ทันสมัย “วิธีดูแลสระว่ายน้ำ,” หรือ “หุ่นยนต์ทำความสะอาดสระ” เพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพสูงสุด
- (0)
Liquid Shock Chlorine ขนาด 1L
120 ฿
- ชื่อสินค้า : Liquid Shock Chlorine ขนาด 1L
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Liquid Shock Chlorine
- ขนาดบรรจุ : 1L
- Packing : ขวด (Bottle)
- (0)
กรดไซยานูริก Cyanuric Acid ขนาด 4 Kg
880 ฿
- ชื่อสินค้า : กรดไซยานูริก (Cyanuric Acid)
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cyanuric Acid
- สูตรเคมี : (CNOH)3
- Packing : ถัง (Gallon Tank)
- (0)
กาวอีพ๊อกซี่ติดกระเบื้องใต้น้ำ กาวปะกระเบื้องใต้น้ำ
2,500 ฿
- ชื่อสินค้า : กาวอีพ๊อกซี่ติดกระเบื้องใต้น้ำ กาวปะกระเบื้องใต้น้
- ขนาดบรรจุ : 2 kg
- Packing : ถัง (Gallon Tank)
- (0)
คลอรีน 90% (ชนิดผง) Chlorine 90%
165 ฿ – 3,650 ฿
- ชื่อสินค้า : คลอรีน 90% (ชนิดผง) Chlorine 90%
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trichloroisocyanuric (Chlorine 90%) Powder
- สูตรเคมี : Cl
- Packing : กระปุก (Bowl)
- COA และ MSDS : ติดต่อขอรับได้ที่ sales_worldchemical@hotmail.com
- (0)
คลอรีน 90% (ชนิดเม็ด/เกล็ด) Chlorine 90%
165 ฿ – 3,650 ฿
- ชื่อสินค้า : คลอรีน 90% ชนิดเม็ด
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chlorine 90% Granular
- สูตรเคมี :
- Packing : กระปุก และ ถัง (Can and Gallon Tank)
- COA และ MSDS : ติดต่อขอรับได้ที่ sales_worldchemical@hotmail.com
- (0)
คลอรีน 90% ก้อน 15 กรัม
220 ฿ – 6,800 ฿
- ชื่อสินค้า : คลอรีน 90% ก้อน 15 กรัม
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chlorine 90% Tablet 15 g
- สูตรเคมี :
- Packing : กระปุก และ ถัง (Can and Gallon Tank)
- COA และ MSDS : ติดต่อขอรับได้ที่ sales_worldchemical@hotmail.com
- (0)
คลอรีน 90% ก้อน 200 กรัม
165 ฿ – 5,700 ฿
- ชื่อสินค้า : คลอรีน 90% ก้อน 200 กรัม
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Chlorine 90% Tablet 200 g
- สูตรเคมี :
- Packing : กระปุก และ ถัง (Can and Gallon Tank)
- COA และ MSDS : ติดต่อขอรับได้ที่ sales_worldchemical@hotmail.com
- (0)
คลอรีนก้อน 90% ผสมคอปเปอร์
210 ฿
- ชื่อสินค้า : คลอรีนก้อน 90% ผสมคอปเปอร์ซัลเฟต ขนาด 1 Kg
- ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trichloroisocyanuric (Chlorine 90%) with Copper Sulphate
- ขนาดบรรจุ : 1 kg
- Packing : กระปุก (Bowl)
- COA และ MSDS : ติดต่อขอรับได้ที่ sales_worldchemical@hotmail.com
1. รักษาความสมดุลของเคมีในน้ำ
- ตรวจค่า pH และคลอรีนอย่างสม่ำเสมอ: ควรตรวจค่า pH ให้มีระดับอยู่ระหว่าง 7.2-7.8 เพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคลอรีนในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำสระ
- เติมสารเคมีตามความจำเป็น: เช่น คลอรีน น้ำยาปรับค่า pH และน้ำยาป้องกันตะไคร่ ตรวจสอบปริมาณการเติมเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเกินความจำเป็น
ใช้คลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรค
- คลอรีนเป็นสารเคมีหลักที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำ โดยช่วยกำจัดแบคทีเรีย, ไวรัส, และสิ่งสกปรกที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- การเติมคลอรีนในสระควรทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาระดับของสารนี้ในน้ำให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- ค่า คลอรีน ควรอยู่ในช่วง 1-3 ppm (parts per million) เพื่อให้มั่นใจว่ามีความสามารถในการฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและดวงตาของผู้ใช้งาน
- การตรวจสอบค่า คลอรีน ควรทำอย่างสม่ำเสมอทุก 1-2 สัปดาห์ หรือทุกครั้งหลังการใช้สระว่ายน้ำหนัก ๆ
- ควรเติมคลอรีนตามปริมาณที่แนะนำโดยผู้ผลิตหรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
- สามารถเลือกใช้ คลอรีนชนิดผง, เม็ด, หรือแกรนูล ตามความสะดวก และสภาพของสระ
- ควรใช้เครื่องมือที่ช่วยในการควบคุมการเติมคลอรีน เช่น ปั๊มคลอรีนอัตโนมัติ เพื่อให้การเติมสารเคมีเป็นไปอย่างแม่นยำและปลอดภัย
ใช้ น้ำยาปรับค่า pH เพื่อรักษาความสมดุลของน้ำ
- ค่า pH ในสระว่ายน้ำควรอยู่ระหว่าง 7.2 – 7.8 เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและประสิทธิภาพของสารเคมีต่าง ๆ เช่น คลอรีน
- หากค่า pH ต่ำกว่า 7.2 (น้ำเป็นกรด) จะทำให้ผิวหนังและดวงตาของผู้ใช้งานระคายเคือง และอาจทำให้คลอรีนทำงานได้ไม่เต็มที่
- หากค่า pH สูงกว่า 7.8 (น้ำเป็นด่าง) อาจทำให้เกิดการสะสมของแร่ธาตุในน้ำและอุปกรณ์ในสระว่ายน้ำ รวมถึงการทำงานของคลอรีนลดลง
- ใช้น้ำยาปรับค่า pH เพิ่ม (เช่น น้ำยาปรับค่า pH ขึ้น) หากค่า pH ต่ำกว่า 7.2
- ใช้น้ำยาปรับค่า pH ลด (เช่น กรดมะนาว หรือกรดคลอโรซัลฟูริก) หากค่า pH สูงเกินไป
- ควรปรับค่า pH ของน้ำให้ตรงตามมาตรฐานเพื่อให้สระมีน้ำที่สะอาดและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
- ควรตรวจสอบค่า pH ในสระว่ายน้ำทุก 1-2 สัปดาห์ หรือบ่อยขึ้นในช่วงที่สระมีการใช้งานมาก
- การใช้ ชุดทดสอบน้ำ หรือ เครื่องมือวัดค่า pH จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบค่า pH ได้อย่างแม่นยำและสามารถปรับปรุงได้ทันเวลา
ใช้ น้ำยาป้องกันตะไคร่ เพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่ในสระ
- น้ำยาป้องกันตะไคร่ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของ ตะไคร่ และ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ที่สามารถทำให้พื้นผิวของสระลื่นและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน
- ตะไคร่มักเกิดขึ้นในสระที่มีความชื้นสูงและการหมุนเวียนน้ำไม่ดี โดยเฉพาะในบริเวณที่มีแสงแดดจัดหรืออุณหภูมิสูง
- การใช้ น้ำยาป้องกันตะไคร่ ช่วยลดโอกาสในการเกิดตะไคร่และรักษาน้ำในสระให้ใสสะอาด
- ใช้ น้ำยาป้องกันตะไคร่ เช่น Cleartrine หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิต
- ปริมาณการเติมน้ำยาป้องกันตะไคร่จะขึ้นอยู่กับขนาดของสระและความถี่ในการใช้งาน โดยปกติแล้วจะเติมน้ำยาป้องกันตะไคร่ในช่วงที่น้ำมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดตะไคร่ เช่น ฤดูร้อนหรือช่วงที่มีฝนตกหนัก
- ควรเติมน้ำยาป้องกันตะไคร่ลงในสระตามคำแนะนำของผู้ผลิต และอาจเติมซ้ำทุก 2-4 สัปดาห์หรือเมื่อพบว่ามีการเจริญเติบโตของตะไคร่
- ควร ตรวจสอบ น้ำในสระเป็นประจำเพื่อดูว่ามีการสะสมของตะไคร่หรือไม่ หากพบปัญหาตะไคร่ ควรใช้ เครื่องมือทำความสะอาด เช่น แปรงขัดหรือหุ่นยนต์ทำความสะอาดเพื่อลบตะไคร่ที่ติดอยู่บนผนังและพื้นสระ
- การใช้ น้ำยาป้องกันตะไคร่ ร่วมกับการ รักษาความสมดุลของค่า pH และการเติม คลอรีน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันตะไคร่และรักษาความสะอาดของน้ำในสระ
ตรวจสอบปริมาณการเติมสารเคมีให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการใช้สารเกินความจำเป็น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานและระบบกรองน้ำ
- ค่า pH และ ค่า chlorine เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบบ่อย ๆ ค่า pH ควรอยู่ในช่วง 7.2-7.8 และค่า คลอรีน ควรอยู่ที่ 1-3 ppm เพื่อให้การทำงานของสารเคมีมีประสิทธิภาพ
- การใช้อุปกรณ์ ชุดทดสอบน้ำ หรือ เครื่องมือวัดค่าเคมี จะช่วยให้การตรวจสอบแม่นยำ และสามารถปรับค่าได้อย่างถูกต้อง
- ทุกครั้งที่เติมสารเคมี เช่น คลอรีน, น้ำยาปรับ pH, หรือ น้ำยาป้องกันตะไคร่ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตที่ระบุในฉลาก
- ควรปรับปริมาณสารเคมีให้เหมาะสมกับขนาดสระและสภาพการใช้งาน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเกินความจำเป็น
- การใช้ ระบบเติมสารเคมีอัตโนมัติ ช่วยให้การเติมสารเคมีเป็นไปอย่างแม่นยำและปลอดภัย โดยสามารถปรับปริมาณการเติมได้ตามค่าที่ตั้งไว้ในระบบ
- ระบบนี้ช่วยลดความผิดพลาดในการเติมสารเคมีและลดการใช้สารเกินความจำเป็น
- ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน: การใช้สารเคมีมากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและตาของผู้ใช้งาน รวมถึงอาจส่งผลให้มีอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก
- ผลกระทบต่อระบบกรองน้ำ: การใช้สารเคมีมากเกินไปอาจทำให้ระบบกรองน้ำทำงานหนักขึ้น หรือเกิดการสะสมของสารเคมีในไส้กรอง ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพการกรองน้ำและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
- หากมีการใช้งานสระมากขึ้น เช่น ในช่วงฤดูร้อน ควรตรวจสอบและปรับปริมาณสารเคมีให้เหมาะสมตามความต้องการ
- หากมีการฝนตกหรือมีการใช้สระน้อยลง การปรับลดการเติมสารเคมีจะช่วยรักษาความสมดุลของน้ำและป้องกันการใช้สารเคมีเกินความจำเป็น
2. ทำความสะอาดพื้นและผนังสระ
- ใช้แปรงทำความสะอาดผนังและพื้นควรใช้แปรงทำความสะอาดพื้นและผนังสระว่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของ คราบตะไคร่ และ คราบสกปรก ที่อาจทำให้สระดูหมองคล้ำ
- ควรใช้แปรงที่มีขนแข็งหรือแปรงสำหรับสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถขัดคราบตะไคร่และคราบสกปรกที่เกาะอยู่บนพื้นและผนังของสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ควรทำความสะอาดทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ หรือบ่อยขึ้นหากสระมีการใช้งานบ่อยและมีการสะสมของคราบต่าง ๆ
- ผนังสระ: ใช้แปรงขัดผนังโดยเริ่มจากด้านล่างขึ้นด้านบน เพื่อให้คราบตะไคร่และสิ่งสกปรกหลุดออกจากผนังสระ
- พื้นสระ: ใช้แปรงขัดพื้นสระเพื่อทำให้คราบที่สะสมบนพื้นหลุดออก ซึ่งสามารถขัดไปในทิศทางเดียวกันหรือวนรอบสระ
- การใช้แปรงทำความสะอาดเป็นประจำจะช่วยป้องกันการสะสมของตะไคร่ที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อสระมีความชื้นสูงและการหมุนเวียนน้ำไม่ดี
- หากพบว่ามีตะไคร่เกาะอยู่บนผนังหรือพื้นสระ ควรใช้ น้ำยาป้องกันตะไคร่ หรือ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ร่วมกับการทำความสะอาดเพื่อให้สระว่ายน้ำของคุณสะอาดและปลอดภัย
- ช่วยให้สระว่ายน้ำดูใสสะอาดและน่าสนใจ
- ป้องกันการสะสมของตะไคร่และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
- ทำให้ระบบกรองน้ำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระการทำงานของตัวกรองน้ำ
- หุ่นยนต์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ: หุ่นยนต์ทำความสะอาด เช่น Dolphin M500 หรือรุ่นที่ทันสมัยอื่น ๆ ช่วยลดเวลาและแรงงานในการทำความสะอาด
- เลือกใช้ หุ่นยนต์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ เช่น Dolphin M500 หรือรุ่นที่ทันสมัยอื่น ๆ
- หุ่นยนต์เหล่านี้มีเทคโนโลยีที่ช่วยทำความสะอาดพื้นและผนังสระได้อย่างล้ำลึก ลดแรงงานและเวลาในการดูแลสระ
- คุณสมบัติพิเศษ เช่น การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน หรือโปรแกรมตั้งเวลาทำความสะอาด ช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพในการใช้งาน
3. ใช้ระบบกรองน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบกรองน้ำมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสะอาดของน้ำในสระว่ายน้ำ โดยช่วยขจัดสิ่งสกปรกและอนุภาคต่าง ๆ ที่อาจทำให้สระดูหมองคล้ำ การดูแลรักษาระบบกรองน้ำให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพน้ำในสระว่ายน้ำให้ใสสะอาดเสมอ
- ตรวจสอบและล้างไส้กรองเป็นประจำ: ควรล้างไส้กรองทุก 1-2 สัปดาห์ หรือบ่อยครั้งตามความถี่ในการใช้งาน
- ควรตรวจสอบและล้างไส้กรองทุก 1-2 สัปดาห์ หรือบ่อยขึ้นหากสระมีการใช้งานบ่อยครั้ง
- การล้างไส้กรองช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่สะสมจากการกรองน้ำ เช่น ฝุ่นละออง ตะไคร่ หรือเศษใบไม้ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของระบบกรองลดลง
- เมื่อไส้กรองสะสมสิ่งสกปรกมากเกินไป การกรองน้ำจะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำขุ่น
- เปลี่ยนทรายกรอง (Sand Filter) หรือไส้กรองตามกำหนด: โดยทั่วไปควรเปลี่ยนทุก 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน
- ทรายกรอง (Sand Filter): ทรายกรองในระบบ Sand Filter ควรเปลี่ยนทุก 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพของทรายกรอง การเปลี่ยนทรายกรองจะช่วยให้ระบบกรองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และช่วยรักษาคุณภาพน้ำในสระ
- Cartridge Filter และ DE Filter: สำหรับระบบกรองน้ำที่ใช้ไส้กรองชนิดอื่น เช่น Cartridge Filter หรือ DE Filter ควรตรวจสอบไส้กรองและเปลี่ยนตามคำแนะนำของผู้ผลิต โดยทั่วไปจะต้องเปลี่ยนไส้กรองทุก 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
- ข้อควรระวังในการดูแลระบบกรองน้ำ
- หากไส้กรองมีการสะสมของสิ่งสกปรกมากเกินไป อาจทำให้ระบบกรองทำงานหนักและเพิ่มการใช้พลังงาน ดังนั้นควรตรวจสอบและดูแลระบบกรองอย่างสม่ำเสมอ
- เมื่อทำการล้างไส้กรองหรือเปลี่ยนทรายกรอง ควรทำการบำรุงรักษาอุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบกรอง เช่น วาล์วและท่อ เพื่อให้ระบบกรองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ประโยชน์จากการดูแลระบบกรองน้ำ
- ระบบกรองน้ำที่ได้รับการดูแลและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะทำงานได้มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้น้ำในสระว่ายน้ำใสสะอาดและปลอดภัยสำหรับการใช้งาน
- ลดปัญหาน้ำขุ่นหรือสกปรกที่เกิดจากการกรองที่ไม่ดี และช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบกรองน้ำ
4. ป้องกันปัญหาตะไคร่และน้ำขุ่น
- ใช้น้ำยาป้องกันตะไคร่: เช่น น้ำยาป้องกันน้ำขุ่น Cleartrine ซึ่งช่วยลดการเกิดตะไคร่และทำให้น้ำใสสะอาด
- น้ำยาป้องกันน้ำขุ่น Cleartrine: ช่วยลดการเกิดตะไคร่และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคในน้ำ ทำให้น้ำสะอาดและใสตลอดเวลา
- การใช้อย่างเหมาะสม: ควรใช้น้ำยาในปริมาณที่แนะนำโดยผู้ผลิต เพื่อป้องกันการใช้สารเคมีเกินความจำเป็น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ใช้งานและระบบกรองน้ำ
- คำแนะนำในการใช้: ใช้ตามสัดส่วนที่แนะนำสำหรับขนาดของสระว่ายน้ำ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและป้องกันการใช้สารเคมีมากเกินไป
- กำจัดใบไม้และเศษขยะในน้ำ: ใช้สกิมเมอร์ (Skimmer) เพื่อดักจับสิ่งสกปรกบนผิวน้ำ
- ใช้ สกิมเมอร์ (Skimmer) ดักจับสิ่งสกปรก เช่น ใบไม้และเศษขยะที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
- ควรทำความสะอาดผิวน้ำทุกวันเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกลงไปในระบบกรอง
- ดักจับสิ่งสกปรกบนผิวน้ำ: สกิมเมอร์ทำหน้าที่ดักจับสิ่งสกปรก เช่น ใบไม้ เศษขยะ หรือฝุ่นที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้ตกลงไปในน้ำและทำให้เกิดการสะสมของตะไคร่หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ ในระบบกรอง
- ทำความสะอาดผิวน้ำทุกวัน: ควรทำความสะอาดผิวน้ำทุกวันหรือบ่อยครั้งตามความจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกสะสมบนผิวน้ำ และไม่ทำให้ระบบกรองน้ำทำงานหนักเกินไป
- ลดการสะสมของสิ่งสกปรกในระบบกรอง: การทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนผิวน้ำก่อนที่จะตกลงไปในระบบกรอง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์กรองและทำให้ระบบทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด
5. ตรวจสอบระบบน้ำและอุปกรณ์ต่าง ๆ
- ตรวจสอบปั๊มน้ำและระบบหมุนเวียน: ให้แน่ใจว่าระบบทำงานปกติและไม่มีการรั่วซึม
- ควรตรวจสอบ ปั๊มน้ำ และ ระบบหมุนเวียนน้ำ ทุกเดือนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการรั่วซึม
- ตรวจสอบการทำงานของปั๊มให้แน่ใจว่ามีแรงดันน้ำที่เพียงพอและไม่มีเสียงผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการสึกหรอหรือปัญหาภายในระบบ
- แรงดันน้ำ: ให้แน่ใจว่าปั๊มน้ำมีแรงดันน้ำที่เพียงพอสำหรับการหมุนเวียนน้ำในระบบ โดยการตรวจสอบหน้าจอแสดงผลหรือเครื่องมือวัดแรงดัน หากพบว่าแรงดันลดลงอาจแสดงถึงปัญหาภายในปั๊ม
- เสียงผิดปกติ: ฟังเสียงของปั๊ม หากได้ยินเสียงที่ผิดปกติ เช่น เสียงดังหรือเสียงกระแทก อาจเป็นสัญญาณของปัญหาภายในปั๊ม เช่น การสึกหรอของชิ้นส่วนภายใน หรือการขัดข้องของระบบ
- ตรวจสอบการรั่วซึม:
- เช็คบริเวณท่อและข้อต่อ: ตรวจสอบทุกท่อและข้อต่อที่เชื่อมต่อกับปั๊มและระบบหมุนเวียนน้ำว่าไม่มีการรั่วซึม เพราะหากมีน้ำรั่วจะทำให้ระบบกรองทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
- ทดสอบแรงดัน: หากมีการรั่วซึมในส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบน้ำ จะทำให้แรงดันน้ำลดลง ควรตรวจสอบโดยการใช้เครื่องมือทดสอบแรงดันน้ำ
- ทำความสะอาดส่วนที่ติดขัด:
- หากพบว่าสารปนเปื้อนหรือเศษสิ่งสกปรกติดอยู่ในปั๊มหรือท่อ ควรทำความสะอาดเพื่อให้ระบบหมุนเวียนน้ำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- บำรุงรักษาอุปกรณ์เป็นประจำ: เช่น หัวจ่ายน้ำ วาล์ว และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
- ตรวจสอบและทำความสะอาด หัวจ่ายน้ำ และ วาล์ว เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างราบรื่น
- ตรวจสอบอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น สกิมเมอร์, ปีกผีเสื้อ, หัวดูดน้ำ เพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน
6. ใช้เทคโนโลยีช่วยในการดูแลสระ
- แอปพลิเคชันตรวจสอบคุณภาพน้ำ: แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์น้ำช่วยให้คุณติดตามสถานะของน้ำในสระได้แบบเรียลไทม์
- ใช้แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับ เซ็นเซอร์น้ำ เพื่อ ติดตามสถานะของน้ำในสระ แบบเรียลไทม์
- แอปพลิเคชันเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบคุณภาพน้ำ เช่น ค่า pH, คลอรีน และอุณหภูมิได้ทุกที่ทุกเวลา
- สามารถตั้งการแจ้งเตือนเมื่อค่าของน้ำอยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถปรับปรุงสภาพน้ำได้ทันที
- ระบบควบคุมอัตโนมัติ: เช่น ระบบเติมสารเคมีอัตโนมัติ หรือระบบหมุนเวียนน้ำอัจฉริยะ
- ระบบ เติมสารเคมีอัตโนมัติ ช่วยให้การเติมสารเคมีในสระเป็นไปอย่างแม่นยำและสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องตรวจสอบและเติมด้วยมือ
- ระบบหมุนเวียนน้ำอัจฉริยะ สามารถควบคุมการหมุนเวียนน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุดโดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดพลังงานและเวลาการดูแล
7. วางแผนการบำรุงรักษาตามฤดูกาล
- ฤดูร้อน: เพิ่มการทำความสะอาดและตรวจสอบค่าเคมีบ่อยขึ้น เนื่องจากมีการใช้งานมาก
- เพิ่มการทำความสะอาดและตรวจสอบค่าเคมีบ่อยขึ้น เนื่องจากการใช้งานของสระจะมากขึ้นในช่วงนี้
- ตรวจสอบ ค่า pH และ คลอรีน ทุกสัปดาห์เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำสะอาดและปลอดภัย
- ทำความสะอาดพื้นและผนังสระ เพิ่มเติม เนื่องจากเศษสิ่งสกปรกจะสะสมมากในช่วงที่มีการใช้งานบ่อย
- ฤดูฝน: ป้องกันน้ำฝนปนเปื้อนโดยการปิดผ้าคลุมสระ และตรวจสอบค่าความสมดุลของเคมีหลังฝนตก
- ป้องกันน้ำฝนปนเปื้อน โดยการใช้ ผ้าคลุมสระ ป้องกันการตกของฝุ่นละอองและเศษใบไม้
- หลังจากฝนตก ตรวจสอบค่าความสมดุลของเคมี อีกครั้ง เพราะน้ำฝนอาจทำให้ค่า pH และคลอรีนไม่สมดุล
- ควรใช้ น้ำยาป้องกันน้ำขุ่น เพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่ในช่วงที่มีฝนตกบ่อย
- ฤดูหนาว: ลดการทำงานของปั๊มน้ำ แต่ยังคงดูแลให้ระบบน้ำสะอาด
- ลดการทำงานของปั๊มน้ำ เพื่อประหยัดพลังงาน แต่ยังคงควบคุมให้ระบบหมุนเวียนน้ำทำงานเป็นระยะ
- ตรวจสอบระบบกรองน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานยังมีประสิทธิภาพ
- ถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะต่ำลง แต่ควรทำความสะอาดและดูแลสระอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันปัญหาความสะอาดในระยะยาว
หากสนใจสั่งซื้อ อุปกรณ์สระว่ายน้ำ สามารถติดต่อ เวิลด์พูลส์ ดีเวลล็อปเมนท์ ผู้นําด้านการจําหน่าย อุปกรณ์สระว่ายน้ำทุกยี่ห้อ Emaux , Astral Pool, Hayward , Raion , Jacuzzi , Kripsol , Pool & Spa , Dolphin ด้วยความหลากหลาย Brand ของสินค้าและแต่ละประเภทของสินค้า ถังกรองสระว่ายน้ำ ปั๊มสระว่ายน้ำ เครื่องเกลือสระว่ายน้ำ ไฟใต้น้ำ Fitting อุปกรณ์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ เครื่องดูดตะกอนอัตโนมัติ และ เคมีสระว่ายน้ำ คลอรีน 90 % คลอรีน 70 % น้ำยากำจัดตะไคร่น้ำ Swimtrine Pooltrine สารตกตะกอน ทำให้น้ำสระว่ายน้ำใส สารพัดด้านเคมี เวิลด์พูลส์ ดีเวลล็อปเมนท์ พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน
บริษัท เวิลด์พูลส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
- 261/5 ถ.มหิดล ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100
- 053-204 446-7
- 095-6815757
- ไลน์ : @worldpools
- FaceBook Page : World Pools สร้างสระว่ายน้ำ เชียงใหม่ อุปกรณ์สระ สระว่ายน้ำ ซ่อมสระ ดูแลสระ
- worldpoolscnx@gmail.com