เว็บไซต์ www.Worldpools.co.th รวบรวมชุดคำถามและคำตอบที่ลูกค้ามักสอบถามเข้ามาบ่อยเกี่ยวกับ สินค้า เคมีภัณฑ์ บริการจัดส่ง และการใช้งานเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาคำตอบได้ด้วยตนเองอย่างสะดวก รวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องรอการตอบกลับจากทีมงาน
เว็บไซต์ Worldpools.co.th สามารถออกใบเสนอราคา (Quotation) ให้ลูกค้าได้โดยตรง เพื่อความสะดวกในการสั่งซื้อและเปรียบเทียบราคา ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าที่ต้องการจากหน้าเว็บไซต์ ระบุจำนวน และกดปุ่ม “ขอใบเสนอราคา (Request Quotation)” เพื่อส่งคำขอได้ทันที
เมื่อระบบได้รับคำขอ ทีมงานจะตรวจสอบรายละเอียดสินค้า รุ่น และจำนวน พร้อมคำนวณราคาสินค้า ค่าจัดส่ง และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี) จากนั้นจัดทำใบเสนอราคาในรูปแบบ ไฟล์ PDF อย่างเป็นทางการ ส่งให้ทาง อีเมลที่ลูกค้าระบุไว้ หรือ LINE Official @worldpools ภายใน 24 ชั่วโมงทำการ
ใบเสนอราคาที่ออกโดย World Pools Development Co., Ltd. สามารถใช้ประกอบการจัดซื้อ (PO) หรือการยื่นเอกสารภายในหน่วยงานได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานบัญชีและภาษีของกรมสรรพากร
ในช่วงหน้าร้อน อุณหภูมิสูงและแสงแดดจัดอาจทำให้คลอรีนระเหยเร็วและตะไคร่เกิดง่ายกว่าปกติ การดูแลรักษาสระว่ายน้ำในช่วงนี้จึงควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยมีแนวทางดังนี้
ตรวจเช็คค่าคลอรีนและค่า pH ทุกวัน
รักษาค่าคลอรีนให้อยู่ระหว่าง 1.0–3.0 ppm
ควบคุมค่า pH ในน้ำให้อยู่ที่ 7.2–7.6 เพื่อให้คลอรีนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
เติมคลอรีนให้เพียงพอในตอนเย็นหรือหลังพระอาทิตย์ตก
เพราะแสงแดดในเวลากลางวันจะทำให้คลอรีนระเหยได้มาก ควรเติมคลอรีนในช่วงเย็นเพื่อให้คงค่าได้ยาวนาน
ทำความสะอาดสระและกรองทรายเป็นประจำ
ดูดตะกอนพื้นสระอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง
ล้างกรอง (Backwash) ทุกครั้งที่แรงดันในเกจสูงกว่าปกติ
ป้องกันการเกิดตะไคร่
เติมสารป้องกันตะไคร่ (Algaecide) ทุกสัปดาห์
หมั่นขัดผนังและพื้นสระบริเวณที่โดนแดดจัด
ตรวจระดับน้ำในสระให้เหมาะสม
น้ำระเหยได้เร็วกว่าปกติในหน้าร้อน ควรรักษาระดับน้ำให้อยู่เหนือช่องดูดน้ำ (Skimmer) เสมอ
การดูแลตามขั้นตอนนี้จะช่วยให้น้ำในสระใสสะอาด ไม่มีกลิ่นคลอรีนแรง และยืดอายุการใช้งานของระบบกรองได้ยาวนานขึ้น
การเลือกใช้คลอรีนขึ้นอยู่กับลักษณะการดูแลสระว่ายน้ำและความสะดวกของผู้ใช้งาน โดยทั่วไป คลอรีนทั้งแบบผงและแบบเม็ดสามารถใช้ได้ดีทั้งคู่ แต่มีความแตกต่างในลักษณะการละลายและวิธีใช้งานดังนี้
คลอรีนชนิดผง (Chlorine Powder)
ละลายเร็ว เหมาะกับการปรับค่าน้ำทันที เช่น หลังจากฝนตกหรือน้ำขุ่น
นิยมใช้ในขั้นตอนการ “ช็อกคลอรีน (Shock Chlorination)” เพื่อฆ่าเชื้อและเร่งให้น้ำใส
ควรละลายคลอรีนในถังน้ำก่อนเทลงสระ เพื่อป้องกันการกัดพื้นผิวสระ
คลอรีนชนิดเม็ด (Chlorine Tablet)
ละลายช้า เหมาะสำหรับการบำรุงรักษาประจำวัน
ใช้งานง่าย เพียงใส่ในตะกร้าสกิมเมอร์ หรือถังละลายคลอรีนอัตโนมัติ (Chlorinator)
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสระอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเติมบ่อย
💡 สรุปแนะนำ:
สำหรับ สระบ้านทั่วไป แนะนำใช้ คลอรีนชนิดเม็ด ในการดูแลประจำวัน เพราะใช้งานง่ายและควบคุมความเข้มข้นได้สม่ำเสมอ
แต่ควรมี คลอรีนผง ไว้สำหรับการปรับน้ำในกรณีฉุกเฉิน เช่น น้ำขุ่น ตะไคร่ขึ้น หรือหลังฝนตกหนัก
คราบตะไคร่ในสระว่ายน้ำเกิดจากการเจริญเติบโตของ สาหร่ายขนาดเล็ก (Algae) ที่เติบโตได้ดีในสภาพน้ำอุ่น มีแสงแดดจัด และมีสารคลอรีนไม่เพียงพอในการฆ่าเชื้อ โดยมักปรากฏเป็น คราบสีเขียว เหลือง หรือน้ำตาล บนพื้นและผนังสระ
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดตะไคร่ ได้แก่
ระดับคลอรีนในน้ำต่ำเกินไป – ทำให้ไม่สามารถฆ่าเชื้อสาหร่ายได้
ค่า pH ไม่สมดุล – ส่งผลให้คลอรีนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ระบบกรองน้ำไม่สะอาด หรือเปิดกรองไม่เพียงพอ
ขาดการดูแลทำความสะอาดประจำสัปดาห์
แนวทางการแก้ไขและป้องกันมีดังนี้ 👇
🧴 ปรับระดับคลอรีนให้เพียงพอ
ตรวจสอบค่าคลอรีนให้อยู่ระหว่าง 1.0–3.0 ppm
หากมีตะไคร่ขึ้นมาก ให้ทำการ Shock Chlorination (เติมคลอรีนเข้มข้น) เพื่อฆ่าเชื้อในทันที
⚖️ ปรับสมดุลค่า pH
รักษาค่า pH ให้อยู่ในช่วง 7.2–7.6 เพื่อให้คลอรีนทำงานได้ดี
🧽 ขัดพื้นและผนังสระให้ทั่วถึง
ใช้แปรงขัดพื้นสระโดยเฉพาะเพื่อขจัดตะไคร่ที่เกาะแน่น
🌊 เปิดระบบกรองน้ำต่อเนื่องอย่างน้อย 8–12 ชั่วโมงต่อวัน
เพื่อหมุนเวียนน้ำและช่วยให้ระบบกรองจับตะไคร่ได้ดีขึ้น
💧 เติมสารป้องกันตะไคร่ (Algaecide)
ใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ โดยเฉพาะในฤดูร้อนหรือช่วงที่แดดจัด
💡 คำแนะนำเพิ่มเติม:
หลังจากทำการกำจัดตะไคร่แล้ว ควรดูดตะกอนออกจากสระ และล้างระบบกรอง (Backwash) เพื่อขจัดสิ่งตกค้างทั้งหมด
หากตรวจสอบแล้วพบว่า ค่า pH ของน้ำในสระต่ำกว่า 7.2 แสดงว่าน้ำมีความเป็นกรดมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้คลอรีนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเกิดผลเสียต่อพื้นผิวสระหรืออุปกรณ์โลหะในระบบกรอง เช่น การกัดกร่อนของปั๊ม วาล์ว หรือท่อทองเหลือง
สารเคมีที่ใช้ในการปรับค่า pH ให้สูงขึ้นคือ
🧴 โซดาแอช (Soda Ash) หรือชื่อทางเคมีคือ Sodium Carbonate (Na₂CO₃)
วิธีการใช้งาน:
วัดปริมาณน้ำในสระโดยประมาณ (เช่น 50–100 ลูกบาศก์เมตร)
ละลาย โซดาแอช ในน้ำสะอาดก่อน (ห้ามเทผงลงสระโดยตรง)
เทสารละลายลงในบริเวณที่มีการหมุนเวียนน้ำดี เช่น ใกล้หัวจ่ายน้ำ
เปิดระบบกรองน้ำทิ้งไว้ประมาณ 4–6 ชั่วโมง
ตรวจสอบค่า pH อีกครั้ง หากยังต่ำกว่า 7.2 ให้เติมเพิ่มในปริมาณเล็กน้อยจนกว่าค่าอยู่ในช่วง 7.2–7.6
💡 ข้อควรระวัง:
ห้ามเติมโซดาแอชพร้อมกับคลอรีนในเวลาเดียวกัน เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาเคมีและลดประสิทธิภาพของสารทั้งสอง
ควรสวมถุงมือและหน้ากากขณะผสมสารเคมี เพื่อความปลอดภัย
การรักษาค่า pH ให้อยู่ในระดับสมดุลจะช่วยให้น้ำในสระใสสะอาด ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของระบบกรองและอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ยาวนาน
น้ำเขียวในสระว่ายน้ำเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็นสระบ้านพักส่วนตัว สระโรงแรม หรือสระคลับเฮ้าส์ ปัญหานี้มักเกิดจากการเจริญเติบโตของสาหร่าย (Algae) และการขาดสมดุลทางเคมีในน้ำ ซึ่งนอกจากจะทำให้สระดูไม่น่าใช้งานแล้ว ยังเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ว่ายน้ำอีกด้วย
บทความนี้จะอธิบาย สาเหตุของน้ำเขียวในสระว่ายน้ำ และ ขั้นตอนการแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี รวมถึง วิธีป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
การสะสมของสาหร่าย
เกิดจากการที่น้ำขาดสารฆ่าเชื้อ เช่น คลอรีน หรือมีระดับคลอรีนต่ำ
อุณหภูมิสูงและแสงแดดมากทำให้สาหร่ายเจริญเติบโตเร็ว
ค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ไม่สมดุล
ถ้าค่า pH สูงเกินไป คลอรีนจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ควรรักษาค่า pH ให้อยู่ระหว่าง 7.2–7.6
ระบบกรองน้ำไม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟิลเตอร์อุดตัน หรือปั๊มน้ำทำงานไม่เต็มกำลัง
ทำให้สิ่งสกปรกและสปอร์ของสาหร่ายยังคงหมุนเวียนอยู่ในน้ำ
สิ่งสกปรกจากภายนอก
ใบไม้ ฝุ่นละออง หรือคราบเหงื่อและโลชั่นจากผู้ว่ายน้ำ
เพิ่มสารอาหารให้สาหร่ายเติบโต
ใช้ ชุดทดสอบน้ำสระ (Test Kit) วัดค่า pH, Alkalinity และระดับคลอรีน
ปรับค่า pH ให้อยู่ที่ 7.2–7.6 เพื่อให้คลอรีนทำงานได้เต็มที่
ถ้า pH สูง ให้ใช้ pH Minus ลดค่า
ถ้า pH ต่ำ ให้ใช้ pH Plus เพิ่มค่า
ใส่คลอรีนในปริมาณสูง (Shock Dose) เพื่อฆ่าสาหร่ายอย่างรวดเร็ว
ใช้ Calcium Hypochlorite หรือ Sodium Hypochlorite
เปิดปั๊มหมุนเวียนน้ำอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ใช้แปรงทำความสะอาดขัดผนังและพื้นสระเพื่อให้สาหร่ายหลุดออก
ทำควบคู่กับการดูดตะกอน (Vacuum) เพื่อเอาสิ่งสกปรกออกจากสระ
หลังการ Shock และดูดตะกอน ให้เติม Algaecide เพื่อยับยั้งการเกิดซ้ำ
เลือกสูตรที่เหมาะกับประเภทสาหร่าย เช่น สีเขียว สีเหลือง หรือสีดำ
Backwash หรือทำความสะอาดฟิลเตอร์
ตรวจสอบปั๊มน้ำและระบบท่อให้ทำงานปกติ
ตรวจเช็กคุณภาพน้ำเป็นประจำ
ตรวจค่า pH และคลอรีนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
รักษาระดับคลอรีนให้อยู่ที่ 1–3 ppm
เปิดระบบกรองน้ำทุกวัน
ควรเปิดอย่างน้อย 8–12 ชั่วโมงต่อวัน
เพื่อให้มีการหมุนเวียนน้ำและกรองสิ่งสกปรกอย่างต่อเนื่อง
ทำความสะอาดสระเป็นประจำ
แปรงผนัง ดูดตะกอน และตักเศษใบไม้
ลดแหล่งอาหารของสาหร่าย
ใช้ Algaecide ป้องกัน
เติมสารยับยั้งสาหร่ายทุก 1–2 สัปดาห์
โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนหรือเมื่อมีการใช้งานสระมาก
ควบคุมปริมาณสิ่งสกปรกจากผู้ใช้งาน
ให้ผู้ว่ายน้ำล้างตัวก่อนลงสระ
ลดการใช้โลชั่นหรือครีมกันแดดที่เหนียวเกินไป
ปัญหาน้ำเขียวในสระว่ายน้ำสามารถแก้ไขได้ หากรู้สาเหตุและลงมือจัดการอย่างถูกวิธี การควบคุมค่า pH การรักษาระดับคลอรีน การทำความสะอาดสระ และการใช้สารยับยั้งสาหร่ายอย่างสม่ำเสมอ เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้สระของคุณใสสะอาดอยู่เสมอ
หากคุณต้องการความสะดวกและประหยัดเวลา การใช้ ชุดบำรุงรักษาสระสำเร็จรูป หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีสระว่ายน้ำ ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลสระของคุณให้ปลอดภัยและน่าใช้งาน
หนึ่งในคำถามยอดฮิตของเจ้าของบ้านหรือผู้ที่กำลังสร้างสระว่ายน้ำคือ
“ควรเลือกใช้ระบบคลอรีน หรือระบบน้ำเกลือ (Saltwater) ดี?”
เพราะทั้งสองระบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน การเลือกผิดอาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายและเสียเวลาในการดูแลสระไปอีกหลายปี
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่าง ข้อดี ข้อเสีย รวมถึงปัจจัยที่ควรพิจารณา เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะกับการใช้งานของคุณ
สระว่ายน้ำระบบคลอรีนคือการใช้สารเคมีคลอรีนโดยตรงในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและตะไคร่น้ำ
วิธีนี้เป็นที่นิยมมานานเพราะต้นทุนเริ่มต้นไม่สูง และสามารถควบคุมคุณภาพน้ำได้แม่นยำ
วิธีการทำงาน
คลอรีนจะถูกเติมลงในสระ ไม่ว่าจะเป็นแบบผง แบบเม็ด หรือแบบน้ำ เมื่อสัมผัสกับน้ำจะเปลี่ยนเป็นกรดไฮโปคลอรัส (Hypochlorous acid) ซึ่งมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคและสลายสารอินทรีย์
สระน้ำเกลือจะใช้เครื่องผลิตคลอรีนจากเกลือ (Salt Chlorinator) โดยใส่เกลือในสระประมาณ 3,000–5,000 ppm
เครื่องจะทำการ Electrolysis แยกเกลือ (โซเดียมคลอไรด์) ให้กลายเป็นคลอรีนในปริมาณต่ำอย่างต่อเนื่อง
จุดเด่น คือความรู้สึกนุ่มนวลของน้ำ กลิ่นคลอรีนเบา และลดการระคายเคืองผิวและตา
| ปัจจัย | ระบบคลอรีน | ระบบน้ำเกลือ |
|---|---|---|
| ต้นทุนติดตั้ง | ต่ำกว่า (ไม่ต้องซื้อเครื่องผลิตคลอรีน) | สูงกว่า (ต้องซื้อ Salt Chlorinator) |
| ต้นทุนการดูแล | ต้องซื้อคลอรีนเติมเป็นประจำ | ซื้อเกลือครั้งละมาก ๆ เติมปีละ 1–2 ครั้ง |
| การบำรุงรักษา | ง่าย เครื่องมือไม่ซับซ้อน | ต้องดูแลเครื่องผลิตคลอรีน |
| คุณภาพน้ำ | อาจมีกลิ่นคลอรีนชัด | น้ำอ่อนนุ่ม กลิ่นเบา |
| ผลต่อผิว/ตา | อาจระคายเคือง | ระคายเคืองน้อยกว่า |
| ความเสถียรของคลอรีน | อาจผันผวน ต้องตรวจบ่อย | ปล่อยคลอรีนต่อเนื่อง สม่ำเสมอ |
| อายุการใช้งานอุปกรณ์ | ไม่มีผลจากเกลือกัดกร่อน | เกลืออาจกัดกร่อนโลหะและอุปกรณ์บางชนิด |
ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ – ไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องผลิตคลอรีน
ควบคุมปริมาณคลอรีนได้แม่นยำ – เหมาะสำหรับสระที่ต้องการการฆ่าเชื้ออย่างเข้มข้น เช่น สระสาธารณะ
อุปกรณ์และอะไหล่หาได้ง่าย – ร้านขายอุปกรณ์สระว่ายน้ำส่วนใหญ่มีพร้อม
ต้องเติมบ่อย – ทำให้เสียเวลาและมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง
กลิ่นแรง – อาจไม่เป็นที่ชอบของผู้ใช้สระ
ระคายเคืองผิวและตา – โดยเฉพาะเด็กและผู้ที่ผิวแพ้ง่าย
น้ำอ่อนนุ่ม – ให้ความรู้สึกสบายผิว คล้ายอาบน้ำแร่
กลิ่นคลอรีนเบา – เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นสารเคมีแรง
คลอรีนปล่อยอย่างต่อเนื่อง – ลดความผันผวนของคุณภาพน้ำ
ต้นทุนติดตั้งสูง – เครื่อง Salt Chlorinator มีราคาหลักหมื่นถึงหลายหมื่นบาท
กัดกร่อนโลหะ – เกลือสามารถทำลายราวสแตนเลสและอุปกรณ์โลหะได้
ต้องดูแลเครื่องผลิตคลอรีน – เปลี่ยนเซลล์ผลิตคลอรีนทุก 3–5 ปี
งบประมาณ – ถ้าต้องการลงทุนต่ำ เลือกระบบคลอรีน
ความสะดวก – ถ้าไม่อยากเติมสารเคมีบ่อย เลือกระบบเกลือ
ผู้อยู่อาศัย – ถ้ามีเด็กหรือผู้ที่ผิวแพ้ง่าย ระบบเกลืออาจตอบโจทย์กว่า
ประเภทสระ – สระส่วนตัวอาจใช้ระบบเกลือ แต่สระสาธารณะอาจเหมาะกับคลอรีนเพราะควบคุมเข้มข้นได้ง่าย
ถ้าคุณ ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถดูแลสระเองได้บ่อย ระบบคลอรีนจะคุ้มกว่า
แต่ถ้าคุณ ต้องการความสบายและปลอดภัยต่อผิว และพร้อมลงทุนระยะยาว ระบบน้ำเกลือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าระบบไหน “ดีกว่า” เพราะขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความสะดวก และความต้องการของเจ้าของสระ
สิ่งสำคัญคือการเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำของคุณอย่างเต็มที่
การมีสระว่ายน้ำที่ใสสะอาดและน่าใช้งาน ไม่เพียงทำให้บ้านหรือรีสอร์ตดูหรูหรามีระดับ แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สระได้รับประสบการณ์การว่ายน้ำที่ปลอดภัยและสุขภาพดี ปัญหาน้ำขุ่น มีกลิ่น หรือเกิดตะไคร่ สามารถป้องกันได้หากเรามีการดูแลรักษาที่ถูกวิธี บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ เคล็ดลับและวิธีดูแลสระว่ายน้ำให้ใสนานๆ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงเทคนิคของผู้เชี่ยวชาญ
หัวใจสำคัญของน้ำสระใสคือ ระบบกรองน้ำ (Filtration System) และ ปั๊มน้ำ (Pump)
ระบบกรองทราย (Sand Filter): ใช้เม็ดทรายกรองสิ่งสกปรก เหมาะสำหรับบ้านพักทั่วไป
ระบบกรองผงไดอะตอมไมต์ (DE Filter): กรองได้ละเอียดมาก เหมาะกับสระที่ต้องการความใสมากเป็นพิเศษ
ระบบกรองการ์ทริดจ์ (Cartridge Filter): ดูแลง่าย เหมาะสำหรับสระขนาดเล็กหรือสระบ้าน
เคล็ดลับ:
ควรเปิดปั๊มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-12 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบหมุนเวียนน้ำทำงานเต็มประสิทธิภาพ
ล้าง Backwash หรือทำความสะอาดไส้กรองอย่างสม่ำเสมอ
น้ำที่ใสและปลอดภัยต้องมีค่าเคมีสมดุล ได้แก่
ค่า pH: อยู่ระหว่าง 7.2 – 7.6 ถ้าสูงหรือต่ำเกินไป จะทำให้ตาและผิวหนังระคายเคือง
คลอรีน (Chlorine): ระดับที่เหมาะสม 1-3 ppm เพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย
ค่า Alkalinity: อยู่ที่ 80-120 ppm เพื่อช่วยรักษาสมดุลของค่า pH
ค่าแคลเซียม (Calcium Hardness): 200-400 ppm เพื่อป้องกันการกัดกร่อนหรือเกิดคราบตะกรัน
เคล็ดลับ: ใช้ชุดทดสอบน้ำสระ (Test Kit) อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อปรับค่าเคมีให้เหมาะสม
แม้ระบบกรองจะทำงานดี แต่เศษใบไม้ ฝุ่น หรือคราบตะไคร่ก็ยังสามารถสะสมได้
ใช้ Skimmer ตักเศษใบไม้หรือสิ่งสกปรกทุกวัน
ดูดตะกอน (Vacuum Pool) อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
แปรงผนังและพื้นสระ เพื่อป้องกันการเกิดคราบตะไคร่และคราบสนิม
เป็นการใส่คลอรีนในปริมาณมากกว่าปกติ เพื่อกำจัดเชื้อโรคและตะไคร่ที่ดื้อคลอรีน
ควรทำ ทุก 1-2 สัปดาห์ หรือเมื่อมีการใช้งานสระอย่างหนัก เช่น หลังปาร์ตี้ หรือฝนตกหนัก
ขั้นตอน:
ปรับค่า pH ให้อยู่ในระดับเหมาะสม
เติมคลอรีนช็อกตามปริมาณที่เหมาะสมกับขนาดสระ
เปิดระบบกรองน้ำต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง
หลีกเลี่ยงการลงว่ายน้ำจนกว่าคลอรีนจะลดลงสู่ระดับปกติ
ตะไคร่เป็นศัตรูตัวร้ายของน้ำใส เพราะทำให้น้ำเขียวและลื่น
ใช้น้ำยาป้องกันตะไคร่ (Algaecide) ทุกสัปดาห์
แปรงผนังและพื้นสระเป็นประจำ
รักษาคลอรีนให้คงที่เพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่ตั้งแต่ต้น
น้ำฝนมีค่า pH ต่ำและมักนำสิ่งสกปรกเข้าสระ
หลังฝนตกควรตักเศษใบไม้และขยะออกทันที
ทดสอบและปรับค่า pH และคลอรีน
ทำการช็อกคลอรีนถ้าน้ำเริ่มขุ่นหรือมีกลิ่น
ตรวจสอบปั๊มน้ำ ท่อ และระบบไฟให้ทำงานปกติ
ล้างตะแกรงดักเศษในปั๊มน้ำ
เปลี่ยนไส้กรองหรือทรายในระบบกรองตามอายุการใช้งาน
ใช้ผ้าคลุมสระ เมื่อไม่ใช้งาน เพื่อลดฝุ่นและสิ่งสกปรก
ติดตั้งระบบโอโซนหรือเกลือ เพื่อช่วยลดการใช้คลอรีนและทำให้น้ำใสเป็นธรรมชาติ
ทำตารางบำรุงรักษา เพื่อไม่ลืมการดูแลประจำสัปดาห์และรายเดือน
การดูแลสระว่ายน้ำให้ใสนานๆ ไม่ได้ยากเกินไป เพียงคุณ
รักษาระบบหมุนเวียนน้ำให้ดี
ควบคุมค่าเคมีให้สมดุล
ทำความสะอาดสระอย่างสม่ำเสมอ
ป้องกันและกำจัดตะไคร่
จัดการน้ำทันทีหลังฝนตก
เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีน้ำสระใส สะอาด และพร้อมใช้งานได้ตลอดทั้งปี
✔️ ได้ ทางบริษัทมีบริการออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบสำหรับลูกค้านิติบุคคลและบุคคลทั่วไป
รูปแบบการนำเสนอข้อมูลในลักษณะ “ถาม–ตอบ” จัดทำขึ้นเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า บริการ และการใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นโดยเว็บไซต์ www.Worldpools.co.th ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยไว้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าหาคำตอบได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกสินค้า การขอใบเสนอราคา ขั้นตอนการสั่งซื้อ หรือการติดต่อทีมงาน
A : หากลูกค้าลืมรหัสผ่านเข้าสู่ระบบเว็บไซต์ Worldpools.co.th สามารถกดที่ปุ่ม “ลืมรหัสผ่าน” (Forgot Password) บนหน้าเข้าสู่ระบบ จากนั้นกรอก อีเมลที่ใช้ลงทะเบียน ระบบจะส่งลิงก์สำหรับรีเซ็ตรหัสผ่านไปยังอีเมลดังกล่าว กรุณากดลิงก์เพื่อกำหนดรหัสผ่านใหม่ให้เรียบร้อยก่อนเข้าสู่ระบบอีกครั้ง
หากไม่ได้รับอีเมลภายใน 5 นาที โปรดตรวจสอบในโฟลเดอร์ “อีเมลขยะ (Spam)” หรือสามารถติดต่อทีมงานผ่าน LINE Official @worldpools หรือ อีเมลเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
A : ลูกค้าสามารถชำระค่าสินค้าได้ทั้งแบบ บัตรเครดิตและการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร โดยระบบของเว็บไซต์ Worldpools.co.th รองรับการชำระเงินผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
💳 บัตรเครดิต / เดบิต (Visa, MasterCard, SCB, KBank) ผ่านระบบชำระเงินที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย (SSL Encryption)
🏦 โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร โดยสามารถแนบหลักฐานการชำระเงินผ่านหน้าเว็บไซต์ หรือส่งสลิปให้เจ้าหน้าที่ผ่าน LINE Official
💰 PromptPay / Mobile Banking / QR Code Payment สำหรับการชำระเงินแบบรวดเร็ว
หลังจากทำรายการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ระบบจะตรวจสอบและยืนยันสถานะการสั่งซื้อภายใน 1–2 ชั่วโมงทำการ
A : เว็บไซต์ Worldpools.co.th รองรับการขอใบเสนอราคาออนไลน์อย่างเป็นทางการ เพื่อความสะดวกของลูกค้าทั้งภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป โดยลูกค้าสามารถเลือกสินค้าที่ต้องการ ใส่จำนวน แล้วกดปุ่ม “ขอใบเสนอราคา (Request Quotation)” ได้โดยตรงจากหน้าเว็บไซต์
เมื่อส่งข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ทีมงานจะตรวจสอบรายละเอียดสินค้า ราคา และค่าจัดส่ง พร้อมจัดทำใบเสนอราคา (Quotation) ในรูปแบบเอกสาร PDF ส่งให้ทาง อีเมลภายใน 24 ชั่วโมงทำการ
หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ลูกค้าสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่าน
A : เว็บไซต์ Worldpools.co.th มีระบบ ติดตามสถานะการจัดส่งสินค้า (Order Tracking) เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบความคืบหน้าของคำสั่งซื้อได้ด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง
หลังจากที่คำสั่งซื้อได้รับการยืนยันและจัดส่งเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าจะได้รับ หมายเลขพัสดุ (Tracking Number) ทางอีเมล หรือในบัญชีสมาชิกของเว็บไซต์ โดยสามารถคลิกที่เมนู “ติดตามการจัดส่ง” เพื่อดูสถานะล่าสุดของพัสดุได้ทันที
ระบบของเรารองรับการตรวจสอบจากหลายบริษัทขนส่ง เช่น Flash, J&T, SCG Express และขนส่งเอกชนอื่น ๆ
หากลูกค้าไม่ได้รับหมายเลขพัสดุภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากชำระเงินเสร็จสิ้น
A : หากปั๊มสระว่ายน้ำทำงานแต่แรงน้ำตกหรือไม่ดูดน้ำ ควรตรวจสอบเบื้องต้นตามลำดับดังนี้
ระดับน้ำในสระว่ายน้ำ – ตรวจสอบให้น้ำอยู่เหนือระดับช่องดูดน้ำ (Skimmer) เสมอ หากต่ำเกินไป ปั๊มจะดูดอากาศเข้าแทนน้ำ
ฝาปั๊มและซีลยาง (O-Ring) – ตรวจสอบว่าปิดสนิท ไม่มีอากาศรั่ว เพราะอากาศที่เข้าในระบบจะทำให้แรงดูดลดลง
ตะกร้าปั๊ม (Pump Basket) – ทำความสะอาดเศษใบไม้หรือสิ่งอุดตันภายในตะกร้า
วาล์วและท่อทางดูด – ตรวจสอบว่ามีการอุดตันหรือวาล์วปิดอยู่หรือไม่
กรองทรายหรือกรองตะกอน (Filter Pressure) – หากแรงดันในเกจสูงเกินปกติ ควรทำการ Backwash เพื่อระบายน้ำย้อนล้างสิ่งสกปรกออก
หากตรวจเช็คเบื้องต้นแล้วยังพบปัญหา แนะนำให้ติดต่อทีมช่างผู้เชี่ยวชาญของ Worldpools เพื่อตรวจสอบระบบปั๊มและถังกรองโดยละเอียด เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์ในระยะยาว
A: เพราะเราคัดสรรสินค้าคุณภาพสูง ราคายุติธรรม มีสต๊อกจริง พร้อมจัดส่งรวดเร็ว และการันตีด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการสระว่ายน้ำ
A: เว็บไซต์จำหน่ายปั๊มสระว่ายน้ำ, เครื่องกรองทราย, คลอรีน, เครื่องทำเกลือ, หุ่นยนต์ทำความสะอาด, สารเคมีสระว่ายน้ำ และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ แบบครบวงจร
A : ได้ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ worldpools.co.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ
A: World Pools Development คือผู้เชี่ยวชาญด้านงานสระว่ายน้ำแบบครบวงจร ทั้งออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้งระบบ และจำหน่ายอุปกรณ์–สารเคมีคุณภาพสูงสำหรับสระว่ายน้ำ