ระบบกรองทรายสระว่ายน้ำคืออะไร? วิธีดูแล + ข้อดีข้อเสีย ที่คุณควรรู้

การมีสระว่ายน้ำในบ้านหรือในสถานบริการ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมภาพลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความสุขและความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย แต่เบื้องหลังความใสสะอาดของน้ำในสระนั้น มาจาก “ระบบกรองน้ำ” ซึ่งหนึ่งในระบบที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ “ระบบกรองทราย” บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักระบบกรองทรายอย่างละเอียด พร้อมข้อดี ข้อเสีย และวิธีการดูแลรักษา เพื่อให้สระว่ายน้ำของคุณคงความใสสะอาดอยู่เสมอ

ระบบกรองทรายสระว่ายน้ำคืออะไร?

ระบบกรองทราย (Sand Filter) คือระบบที่ใช้ “ทรายกรอง” เป็นสื่อกลางในการดักจับสิ่งสกปรกในน้ำ เช่น ฝุ่น เศษใบไม้ เส้นผม และสิ่งปนเปื้อนขนาดเล็ก ทรายกรองที่ใช้มักเป็นทรายซิลิกา (Silica Sand) ที่มีความละเอียดสูง วางซ้อนกันในถังกรอง โดยน้ำจากสระจะถูกปั๊มเข้าสู่ระบบกรอง ผ่านชั้นทราย และไหลกลับลงสระในสภาพที่สะอาด

ทำไมระบบกรองทรายถึงได้รับความนิยม?

ระบบกรองทรายได้รับความนิยมอย่างมากในทั้งบ้านพักอาศัย รีสอร์ต โรงแรม และสระว่ายน้ำสาธารณะ ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังนี้:

  • ต้นทุนติดตั้งไม่สูงเมื่อเทียบกับระบบกรองชนิดอื่น

  • ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีเทคโนโลยีซับซ้อน

  • ดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก

  • มีอายุการใช้งานยาวนาน หากดูแลอย่างเหมาะสม

วิธีดูแลระบบกรองทราย

แม้ระบบกรองทรายจะดูแลง่าย แต่การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญที่ช่วยยืดอายุการใช้งาน พร้อมทั้งรักษาคุณภาพน้ำในสระให้อยู่ในระดับดีเสมอ

1. ล้างย้อนระบบ (Backwash)

ควรทำทุกครั้งที่แรงดันในถังกรองเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติประมาณ 7-10 PSI (หรือทุก 1-2 สัปดาห์ตามการใช้งาน)

  • ปิดปั๊มน้ำ

  • ปรับวาล์วไปที่ “Backwash”

  • เปิดปั๊มและปล่อยน้ำสกปรกออกประมาณ 2-3 นาที

  • ปรับวาล์วไปที่ “Rinse” แล้วเปิดน้ำไล่ออกอีก 30 วินาที

2. เปลี่ยนทรายกรอง

ควรเปลี่ยนทุก 2-3 ปี โดยขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำและการใช้งาน

3. ตรวจสอบแรงดันของระบบ

แรงดันในถังกรองควรอยู่ระหว่าง 10-15 PSI หากสูงเกินควรล้างย้อน หรือเช็คว่ามีสิ่งอุดตันหรือไม่

ข้อดีของระบบกรองทราย

  • ✅ คุ้มค่าเงินลงทุน: ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับระบบกรองคาร์ทริดจ์หรือ DE

  • ✅ ทนทาน ใช้งานได้นาน: ถังกรองและทรายสามารถใช้งานได้หลายปี

  • ✅ เหมาะกับสระขนาดใหญ่: ดักจับสิ่งสกปรกได้ในปริมาณมาก

  • ✅ การบำรุงรักษาง่าย: มีขั้นตอนที่ชัดเจนและทำได้ด้วยตนเอง

ข้อเสียของระบบกรองทราย

  • ❌ กรองได้ไม่ละเอียดเท่าระบบอื่น: สิ่งสกปรกขนาดเล็ก (ต่ำกว่า 20 ไมครอน) อาจผ่านระบบกรองได้

  • ❌ สิ้นเปลืองน้ำในการล้างย้อน: การล้างย้อนแต่ละครั้งใช้น้ำมาก ซึ่งอาจไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านน้ำ

  • ❌ ขนาดใหญ่: ถังกรองต้องการพื้นที่ติดตั้งมากกว่าระบบอื่น

ระบบกรองทรายเหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มี งบประมาณจำกัด แต่ต้องการระบบที่มีประสิทธิภาพ

  • สระว่ายน้ำ ขนาดกลางถึงใหญ่ ที่ต้องการกรองน้ำในปริมาณมาก

  • ผู้ที่ไม่ต้องการระบบที่ซับซ้อน และสามารถดูแลเองได้ง่ายๆ

เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพการกรอง

  • ติดตั้ง “Skimmer” และตะแกรงดักเศษ เพิ่มเติมเพื่อช่วยกรองสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ก่อนถึงระบบกรอง

  • ใช้เคมีปรับสภาพน้ำควบคู่ เช่น คลอรีน pH- และ flocculant ช่วยให้การกรองละเอียดมากขึ้น

  • หมั่นตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำ และปรับสมดุลค่า pH ให้เหมาะสม (ค่าควรอยู่ที่ 7.2–7.6)

สรุป: ระบบกรองทราย – ทางเลือกที่ใช่หรือไม่?

ระบบกรองทรายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่า ประสิทธิภาพที่เพียงพอ และความง่ายในการดูแลรักษา แม้จะมีข้อจำกัดด้านความละเอียดของการกรอง แต่ก็สามารถชดเชยได้ด้วยการใช้อุปกรณ์เสริมและเคมีที่เหมาะสม หากคุณกำลังมองหาระบบกรองน้ำที่ไว้ใจได้ในราคาที่จับต้องได้ ระบบกรองทรายคือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม

ติดต่อสอบถามขอมูลเพิ่มเติมทางไลน์เลือกซื้อสินค้า


หากสนใจสั่งซื้อ อุปกรณ์สระว่ายน้ำ สามารถติดต่อ เวิลด์พูลส์ ดีเวลล็อปเมนท์ ผู้นําด้านการจําหน่าย อุปกรณ์สระว่ายน้ำทุกยี่ห้อ Emaux , Astral Pool, Hayward , Raion , Jacuzzi , Kripsol , Pool & Spa , Dolphin ด้วยความหลากหลาย Brand ของสินค้าและแต่ละประเภทของสินค้า ถังกรองสระว่ายน้ำ ปั๊มสระว่ายน้ำ เครื่องเกลือสระว่ายน้ำ ไฟใต้น้ำ Fitting อุปกรณ์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ เครื่องดูดตะกอนอัตโนมัติ และ เคมีสระว่ายน้ำ คลอรีน 90 % คลอรีน 70 % น้ำยากำจัดตะไคร่น้ำ Swimtrine Pooltrine  สารตกตะกอน ทำให้น้ำสระว่ายน้ำใส  สารพัดด้านเคมี เวิลด์พูลส์ ดีเวลล็อปเมนท์ พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

บริษัท เวิลด์พูลส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด