6 สัญญาณที่บอกว่าปั๊มสระของคุณกำลังพัง – เช็กลิสต์ที่เจ้าของสระต้องรู้ก่อนสายเกินไป!

ปั๊มสระว่ายน้ำ เปรียบเหมือน หัวใจของระบบสระทั้งหมด ถ้าปั๊มมีปัญหา น้ำทั้งสระจะเริ่มขุ่น ระบบกรองทำงานผิดปกติ ค่าเคมีเพี้ยน และอาจเกิดความเสียหายตามมาทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นทรายกรอง หลอดไฟ เครื่องเกลือ รวมถึงสุขภาพของผู้ใช้งาน

หลายครั้งปัญหาไม่ได้เกิดแบบทันทีทันใด แต่มี “สัญญาณเตือน” ชัดเจนที่เจ้าของสระมองข้าม เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ทั้งที่จริงแล้วอาจกำลังนำไปสู่ค่าใช้จ่ายหลักหมื่น–หลักแสนในอนาคต

หหจะพาไปรู้จัก 6 อาการสำคัญ ที่บอกว่า ปั๊มสระกำลังจะพัง พร้อมวิธีสังเกต และแนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง

---

1️⃣ สัญญาณที่ 1: ปั๊มมีเสียงดังผิดปกติ — เสียงหอน เสียงครูด เสียงสั่น

หนึ่งในสัญญาณแรกที่มักเกิดกับปั๊มสระคือ เสียงดังมากกว่าปกติ เช่น

• เสียงหอน (Bearing ใกล้พัง)

• เสียงครูดโลหะ (ใบพัดหรือแกนหมุนมีปัญหา)

• เสียงสั่นทั้งเครื่อง (ติดตั้งไม่สมดุล หรือมีลมเข้าระบบ)

• เสียงกุกกักจากภายใน (เศษสิ่งของเข้าไปติดที่ใบพัด)

🔧 เกิดจากอะไร?

• แบริ่ง (Bearing) เสื่อมจากการใช้งานหลายปี

• ยางซีล (Mechanical Seal) เสีย ทำให้มีน้ำรั่วเข้าไปในมอเตอร์

• ใบพัด (Impeller) แตกจากการดูดสิ่งแปลกปลอม เช่น กรวด เศษใบไม้แข็ง ๆ

• ปั๊มไม่ได้ติดตั้งบนฐานที่มั่นคง ทำให้มีการสั่น

🔍 แนวทางแก้ไข

• ให้ช่างตรวจเช็ก Bearing และ Mechanical Seal

• ตรวจภายใน Housing ว่ามีเศษอะไรติดหรือไม่

• เช็กการยึดแน่นของฐานปั๊ม

• หากเสียงดังมากและใช้เกิน 5–7 ปี แนะนำพิจารณาเปลี่ยนมอเตอร์หรือปั๊มใหม่

---

2️⃣ สัญญาณที่ 2: แรงน้ำตกลง หรือปั๊มไม่ดูดน้ำ

เมื่อเปิดปั๊มแล้ว แรงดันน้ำอ่อนลง หรือ เปิดแล้วไม่ดูดน้ำเลย แสดงว่าระบบบางส่วนเริ่มมีปัญหา เช่น:

• ปั๊มดูดลมเข้าระบบ

• ฝาปั๊ม / O-ring เสีย ทำให้ไม่สามารถอัดแรงดันได้

• ระบบท่อรั่วซึม

• ใบพัดตัน

• ถังกรองอุดตัน

🔧 เกิดจากอะไร?

• ตะกอนและเศษขยะเข้าไปอุดที่ Skimmer, ใบพัด หรือท่อดูด

• O-ring (โอริงฝาปั๊ม) เสื่อม ทำให้ไม่สามารถปิดผนึกได้

• น้ำต่ำกว่าระดับสกิมเมอร์ ทำให้ดูดลมเข้า

• วาล์วบางจุดปิดไม่สนิทหรือแตก

• ทรายกรองเสื่อม (อายุ 3–5 ปี)

🔍 แนวทางแก้ไข

• เช็กระดับน้ำในสระให้สูงถึงกึ่งกลางสกิมเมอร์

• เปิดฝาปั๊มออกและทำความสะอาดตะกร้า

• ตรวจสอบใบพัดว่ามีสิ่งแปลกปลอมอุดตันหรือไม่

• เปลี่ยนโอริงใหม่

• หากแรงดันไม่กลับมา ให้ช่างตรวจหารอยรั่วระบบท่อ

---

3️⃣ สัญญาณที่ 3: ปั๊มร้อนจัด หรือตัดบ่อย

หากเปิดปั๊มเพียง 5–10 นาทีแล้วปั๊มร้อนจนแตะไม่ได้ หรือ มีการตัดไฟอัตโนมัติ (Thermal Cut-off) แสดงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับไฟฟ้าหรือการระบายความร้อน

🔧 เกิดจากอะไร?

• มอเตอร์ทำงานหนักเกินไป (Overload)

• มีลมเข้าระบบ ทำให้เกิด Cavitation

• ระบบไฟเข้าไม่สม่ำเสมอ

• พัดลมท้ายมอเตอร์ไม่หมุนหรือแตก

• Voltage ไม่พอ (มักเกิดในบ้านที่ใช้ร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าหนัก ๆ)

• แรงดันไหลเวียนน้ำต่ำ ทำให้มอเตอร์ร้อนง่าย

🔍 แนวทางแก้ไข

• ตรวจเช็กแรงดันไฟว่าคงที่หรือไม่

• ทำความสะอาดบริเวณช่องพัดลมท้ายปั๊ม

• เปลี่ยนพัดลมหรือ Capacitor หากเสื่อม

• ถ้าใช้ปั๊มเกินพิกัดของสระ แนะนำอัปเกรดเป็นแรงม้าที่เหมาะสม เช่น

  • สระ 3 × 6 ม. มักใช้ 1 HP

  • สระ 4 × 8 ม. ใช้ 1.5 HP

  • สระขนาดใหญ่ 5 × 10 ม. ขึ้นไป 2 HP

---

4️⃣ สัญญาณที่ 4: ปั๊มมีน้ำรั่ว – แม้เพียงเล็กน้อยก็อันตราย

น้ำรั่วบริเวณฝาปั๊ม ใต้ Housing หรือส่วนต่อท่อเป็นสัญญาณอันตรายมาก เพราะ:

น้ำสามารถซึมเข้ามอเตอร์ ทำให้เกิดช็อตและทำให้มอเตอร์ไหม้ได้

🔧 เกิดจากอะไร?

• Mechanical Seal เสีย

• O-ring ฝาปั๊มแข็ง แตก หรือบิดเบี้ยว

• หน้าปั๊มแตกจากแรงดันเกิน

• ท่อแตกบริเวณหน้า–หลังปั๊ม

• การใช้กาวท่อคุณภาพต่ำ หรือกาวหมดอายุ

🔍 แนวทางแก้ไข

• เปลี่ยนซีลปั๊ม (ควรเปลี่ยนทุก 2–3 ปีในสระระบบคลอรีน)

• เปลี่ยนโอริงและทาจาระบีซิลิโคน

• ตรวจรอยแตกร้าว

• ถ้า Housing ปั๊มแตก แนะนำเปลี่ยนใหม่ทันที

---

5️⃣ สัญญาณที่ 5: ค่าคลอรีนในสระไม่เสถียร ทั้งที่เติมปกติ

เมื่อปั๊มเริ่มมีปัญหา ระบบหมุนเวียนน้ำจะไม่ดี ส่งผลให้:

• คลอรีนไม่กระจายทั่วสระ

• ค่า pH, ORP ขึ้นลงรวดเร็ว

• สระขึ้นตะไคร่บ่อย

• น้ำขุ่นง่ายกว่าปกติ

• ใช้คลอรีนมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่อยู่ในน้ำ

ผลลัพธ์คือ ต้นทุนสารเคมีสูงขึ้นแบบไม่จำเป็น

🔧 เกิดจากอะไร?

• แรงดันปั๊มตก ทำให้หมุนเวียนน้ำไม่ถึง

• ใบพัดเสื่อม ทำให้น้ำไม่กระจาย

• ปั๊มทำงานไม่เต็มรอบ หรือมอเตอร์หมุนช้าลง

• ระบบท่อมีรอยรั่วเล็กน้อย ทำให้แรงดันตก

🔍 แนวทางแก้ไข

• ตรวจ Manometer (เกจวัดแรงดัน) ที่ถังกรองว่าอยู่ในระดับปกติ

• ล้าง Backwash บ่อยขึ้น

• ตรวจสอบปั๊มและระบบท่อว่าแรงดันตกช่วงไหน

• หากปั๊มอายุเกิน 5–8 ปี ให้พิจารณาเปลี่ยนตัวใหม่

---

6️⃣ สัญญาณที่ 6: เปิดปั๊มแล้วไฟตก หรือสะดุดระบบไฟบ้าน

อาการไฟกระพริบ ไฟตก หรือเบรกเกอร์ตัดทุกครั้งที่เปิดปั๊ม แสดงว่าอาจเกิดปัญหาช็อตหรือไฟเกินในมอเตอร์

🔧 เกิดจากอะไร?

• Capacitor เสื่อม

• มอเตอร์มีการลัดวงจร

• สายไฟเก่า ชำรุด หรือโดนน้ำ

• ระบบสายดินไม่ดี

• ปั๊มกินไฟเกินจากปกติ

🔍 แนวทางแก้ไข

• ตรวจ Capacitor แล้วเปลี่ยนใหม่ (อายุ 2–3 ปีควรเปลี่ยน)

• ตรวจสายไฟเข้ามอเตอร์

• ให้ช่างตรวจระบบสายดิน

• หากมอเตอร์ไหม้หรือมีรอยไหม้ ต้องเปลี่ยนใหม่ทันที

---

⭐ ทำไมสัญญาณเล็ก ๆ ถึงนำไปสู่ค่าเสียหายใหญ่?

เพราะปั๊มสระว่ายน้ำทำงานทุกวันอย่างต่อเนื่อง 4–8 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้เกิดการสึกหรออย่างช้า ๆ จนก่อให้เกิดความเสียหายตามจุดต่าง ๆ เช่น

• ค่าเปลี่ยนมอเตอร์ใหม่ 3,500 – 8,500 บาท

• ค่าเปลี่ยน Mechanical Seal 350 – 1,200 บาท

• ค่าเปลี่ยนใบพัด 500 – 1,500 บาท

• ค่าแรงช่างตรวจสอบ 500 – 1,000 บาท

• และหากปล่อยจนปั๊มไหม้ = ต้องเปลี่ยนทั้งชุด 8,000 – 20,000+ บาท

การดูแล ตั้งแต่เริ่มมีอาการเล็ก ๆ ช่วยประหยัดเงินได้มากกว่า 5–10 เท่า

---

⭐ เคล็ดลับดูแลปั๊มสระให้ใช้งาน 7–10 ปีอย่างยาวนาน

✔ ล้างตะกร้าหน้าปั๊ม (Pump Basket) ทุก 1–2 สัปดาห์

✔ ล้าง Backwash / Rinse ถังกรองทุก 1–2 สัปดาห์

✔ ตรวจแรงดันเกจที่ถังกรองเสมอ

✔ เติมน้ำให้สูงถึงกึ่งกลางสกิมเมอร์

✔ เช็กโอริงและซีลปีละครั้ง

✔ หลีกเลี่ยงการเปิดปั๊มตอนน้ำต่ำ

✔ ใช้ระบบไฟที่มีสายดินมาตรฐาน

✔ หากปั๊มอายุเกิน 7 ปี ให้ประเมินการเปลี่ยนใหม่ก่อนเสียหนัก

---

 

 

⭐ ปั๊มสระเริ่มมีอาการเหล่านี้อยู่ไหม?

หากพบสัญญาณใดสัญญาณหนึ่งใน 6 ข้อนี้ แนะนำให้ตรวจเช็กทันที เพื่อป้องกัน:

• ปั๊มไหม้

• สระขึ้นตะไคร่

• น้ำขุ่น

• ค่าเคมีผิดเพี้ยน

• ค่าซ่อมหลักหมื่น

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญในการสร้างสระว่ายน้ำที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือ เราพร้อมให้คำแนะนำและบริการครบวงจรตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง ไปจนถึงการดูแลรักษาสระ เพื่อให้คุณได้สระว่ายน้ำที่สมบูรณ์แบบและใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาฟรี!

บริษัท เวิลด์พูลส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

• 261/5 ถ.มหิดล ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100
• 053-204 446-7
• 095-6815757
• ไลน์ไอดี :   @worldpools
• FaceBook Page : World Pools สร้างสระว่ายน้ำ เชียงใหม่ อุปกรณ์สระ สระว่ายน้ำ ซ่อมสระ ดูแลสระ
• worldpoolscnx@gmail.com