งบสร้างสระบ้านเริ่มต้นเท่าไหร่? ปัจจัยที่ทำให้งบบาน และวิธีคุมงบแบบทำได้จริง

งบสร้างสระบ้านเริ่มต้นสำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป

โดยทั่วไปแล้ว งบสร้างสระบ้านเริ่มต้น สำหรับบ้านพักอาศัยในประเทศไทย จะอยู่ในช่วงประมาณ 400,000–1,500,000 บาท ตัวเลขนี้ไม่ได้ตายตัว แต่แปรผันตามหลายปัจจัย เช่น

• ประเภทสระ: สระคอนกรีต สระไฟเบอร์กลาส หรือสระไวนิลไลเนอร์ ซึ่งแต่ละแบบมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและดูแลรักษาแตกต่างกัน

• ขนาดและความลึก: สระยิ่งใหญ่หรือยิ่งลึก ต้นทุนโครงสร้าง วัสดุ และแรงงานก็สูงขึ้น

• ระบบบำบัดน้ำ: จะใช้คลอรีน, ระบบเกลือ, UV หรือโอโซน ซึ่งแต่ละระบบมีทั้งข้อดี ข้อเสีย และงบประมาณไม่เท่ากัน

• งานโครงสร้างและกันซึม: ถ้าดินอ่อน หรือต้องเสริมฐานราก งบก็จะขยับเพิ่มขึ้น รวมถึงงานกันซึมที่ห้ามลดคุณภาพ เพราะถ้าเกิดรั่วซึม ค่าแก้ไขจะแพงกว่ามาก

• อุปกรณ์เสริม: เช่น ไฟใต้น้ำ RGB, ฮีตปั๊มปรับอุณหภูมิ, ระบบสปาเจ็ต, เด็คไม้สังเคราะห์ หรือหลังคาคลุมสระ ที่สามารถทำให้งบบานปลายได้อย่างรวดเร็ว

✅ เคล็ดลับคุมงบสร้างสระบ้านให้อยู่ในกรอบ

การสร้างสระว่ายน้ำไม่ได้มีแค่เรื่องของราคาเริ่มต้น แต่สิ่งสำคัญคือการ วางแผนงบประมาณ ให้รัดกุมและควบคุมได้จริง

1. กำหนดโจทย์การใช้งานให้ชัดเจน
   เช่น ใช้เพื่อออกกำลังกายจริงจัง หรือเน้นเล่นน้ำกับครอบครัว/เด็ก ๆ เพราะวัตถุประสงค์จะกำหนดทั้งขนาด ระบบ และอุปกรณ์ที่ต้องใช้

2. ล็อกสเปก/ทำ BOQ รายละเอียดชัดเจน
   ระบุยี่ห้อ รุ่น ขนาดของอุปกรณ์ เช่น ปั๊มกรอง ระบบไฟฟ้า และวัสดุที่ใช้ เพื่อให้ผู้รับเหมาประเมินราคาได้ใกล้เคียงกัน และคุณเปรียบเทียบได้ตรงไปตรงมา

3. เลือกเฉพาะสิ่งที่ “คุ้มค่าจริง”
   เช่น ถ้าไม่ได้เน้นโชว์วิวมาก การเลือกสระระบบ Skimmer จะคุ้มกว่าสระ Overflow ที่เพิ่มงบหลักแสน หรือการใช้กระเบื้องกันลื่นคุณภาพดีแทนหินธรรมชาติหายาก

4. บริหารสัญญาเป็นงวดงาน (Milestone Payment)
   จ่ายตามความคืบหน้า เช่น งวดงานโครงสร้าง งวดกันซึม งวดติดตั้งอุปกรณ์ และงวดส่งมอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงงานไม่เสร็จ

5. เผื่อเงินสำรอง 10–15% ของงบทั้งหมด
   เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงหน้างาน วัสดุที่ปรับราคา หรือการปรับแก้แบบที่อาจเกิดขึ้นจริง

---

1) งบสร้างสระบ้านเริ่มต้น: ภาพรวมตามประเภทสระและขนาดยอดนิยม

---

1.1 ขนาดสระยอดนิยมในบ้าน

• 1.1.1 สระเล็ก–ประหยัดพื้นที่ (3×6 ม. ลึก ~1.2–1.4 ม.)

  • เหมาะกับบ้านพื้นที่จำกัด

  • ใช้งบไม่สูง ดูแลง่าย เติมน้ำ–เติมเคมีน้อย

  • เหมาะกับครอบครัวเล็กหรือใช้เล่นคลายร้อน

• 1.1.2 สระมาตรฐานบ้านเดี่ยว (4×8 ม. ลึก ~1.3–1.5 ม.)

  • ขนาดยอดฮิตสำหรับบ้านเดี่ยว

  • ใช้งานอเนกประสงค์ ทั้งเล่นน้ำ ออกกำลังกาย หรือรับแขก

  • งบสูงขึ้น แต่ใช้งานคุ้มค่าในระยะยาว

---

1.2 งบสร้างสระบ้านตามประเภทสระ

1.2.1 สระคอนกรีต (Concrete Pool)

• 3×6 ม.: ~฿400,000–฿800,000

• 4×8 ม.: ~฿800,000–฿1,500,000

จุดเด่น:

• ปรับขนาดและรูปทรงได้อิสระ (สี่เหลี่ยม, ทรงโค้ง, Overflow, Infinity)

• แข็งแรงและอายุการใช้งานยาวนาน 15–30 ปี

• รองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น ระบบเกลือ, ไฟ LED, ฮีตปั๊ม

📌 เหมาะกับผู้ที่ต้องการ สระถาวร ใช้งานยาวนาน และปรับแต่งได้ตามใจ

---

1.2.2 สระไฟเบอร์กลาส (Fiberglass / Prefab Pool)

• ช่วงราคา: ~฿500,000–฿1,200,000

จุดเด่น:

• ติดตั้งรวดเร็ว (ภายในไม่กี่วัน)

• ผิวเรียบ ไม่มีรอยต่อ ทำความสะอาดง่าย

• ดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก

📌 เหมาะกับผู้ที่ต้องการ สระติดตั้งไว ใช้งานสะดวก แต่ไม่ซีเรียสเรื่องดีไซน์อิสระ

---

1.2.3 สระไวนิลไลเนอร์ (Vinyl Liner Pool)

• ช่วงราคา: ~฿450,000–฿900,000

จุดเด่น:

• งบสร้างสระบ้านเริ่มต้นไม่สูง

• พื้นผิวไวนิลนุ่ม เดินสบาย ไม่บาดเท้า

• ติดตั้งเร็วกว่าแบบคอนกรีต

📌 ข้อจำกัด: ต้องเปลี่ยนไลเนอร์เมื่อครบอายุใช้งาน (5–10 ปี) → ต้องเผื่อค่าใช้จ่ายในอนาคต

---

1.3 หมายเหตุสำคัญ: ปัจจัยที่ทำให้ราคาสระเปลี่ยนแปลง

• 1.3.1 สภาพดินและพื้นที่หน้างาน → ดินอ่อน, น้ำใต้ดิน, พื้นที่เข้าถึงยาก

• 1.3.2 ระบบท่อและไฟฟ้า → ห้องเครื่องไกลสระ = ค่าท่อและค่าแรงเพิ่ม

• 1.3.3 วัสดุปูผิวสระ → กระเบื้อง, หินธรรมชาติ, โมเสก = ราคาต่างกันมาก

• 1.3.4 แบรนด์และคุณภาพอุปกรณ์ → ปั๊ม, เครื่องกรอง, ระบบเกลือ

• 1.3.5 ระยะทางขนส่งและค่าแรงพื้นที่

• 1.3.6 ฤดูกาลก่อสร้าง → หน้าฝนมีความเสี่ยงงานแก้ ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่ม

---

✅ สรุปย่อ (สำหรับ SEO):

• สระคอนกรีต → งบเริ่มต้น ~฿400,000

• สระไฟเบอร์กลาส → งบเริ่มต้น ~฿500,000

• สระไวนิลไลเนอร์ → งบเริ่มต้น ~฿450,000

เลือกแบบไหน ขึ้นอยู่กับ งบสร้างสระบ้าน, พื้นที่, และการใช้งานจริง

---

2) อะไรทำให้งบสร้างสระ “บานปลาย”?

การสร้างสระว่ายน้ำในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น สระคอนกรีต สระไฟเบอร์กลาส หรือสระไวนิล งบประมาณมักไม่ได้หยุดแค่ “ราคาตั้งต้น” เท่านั้น แต่จะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ งบสร้างสระบ้านบานปลาย โดยไม่รู้ตัว ดังนี้

🔹 ขนาด – ความลึก – รูปทรง

• ขนาดสระ: เพิ่มความกว้างหรือยาวเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ปริมาณน้ำ วัสดุก่อสร้าง และแรงงานเพิ่มขึ้นทันที งบก็จะขยับขึ้นหลายหมื่นถึงหลักแสน

• ความลึก: หากลึกเกิน 1.5–1.6 ม. จะต้องใช้โครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น ค่าเหล็ก–คอนกรีต และค่าขุดดินเพิ่มขึ้น

• รูปทรงสระ: สระสี่เหลี่ยมเป็นแบบที่คุ้มที่สุด หากเลือกทรงโค้ง ทรงอิสระ หรือเพิ่มบันไดโค้ง/เจ็ทสปา งานแบบและงานปูกระเบื้องจะซับซ้อนขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น

🔹 ระบบสระ (Skimmer vs Overflow / Infinity)

• Skimmer Pool → ระบบมาตรฐาน งบประหยัด ติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับสระบ้านทั่วไป

• Overflow / Infinity Pool → สวยหรู ดูโปร่ง และน้ำใสตลอดเวลา แต่ต้องมี บ่อบาลานซ์ รางน้ำล้น ระบบกันซึมเพิ่ม ปั๊มและท่อขนาดใหญ่กว่า ซึ่งทำให้งบสร้างสระบ้านเพิ่มขึ้นหลักแสนบาท

🔹 ระบบบำบัดน้ำ

• คลอรีน (Manual / Auto) → ต้นทุนต่ำที่สุด แต่ต้องหมั่นเติมสารและดูแลคุณภาพน้ำ

• ระบบเกลือ (Salt Chlorinator) → ลงทุนแรกเริ่มสูงกว่า แต่ใช้งานสะดวก น้ำสัมผัสนุ่ม

• UV, โอโซน หรือระบบไฮบริด → คุณภาพน้ำดี ปลอดคลอรีนตกค้าง แต่ค่าอุปกรณ์สูงขึ้นชัดเจน

🔹 งานโครงสร้าง–กันซึม–MEP (งานระบบท่อ/ไฟ)

• สภาพดิน: ถ้าดินอ่อนหรือมีน้ำใต้ดิน ต้องเสริมฐานหรือทำระบบกันดินเพิ่ม → งบเพิ่มทันที

• กันซึม: ถ้าลดเกินไปอาจเกิดปัญหาน้ำรั่ว ต้องแก้ทีหลัง ซึ่งแพงกว่าการทำให้ดีตั้งแต่แรก

• งานไฟฟ้า: มาตรฐาน RCD, หม้อแปลงไฟสระ, ระบบสายดิน เป็นสิ่งที่ห้ามตัดลด → เพราะปลอดภัยและป้องกันความเสียหาย

🔹 อุปกรณ์เสริม “เล็กๆ แต่บวกเยอะ”

• ไฟสระ RGB อัจฉริยะ → เพิ่มความสวยงาม แต่ราคาหลักหมื่นต่อจุด

• ฮีตปั๊ม/ชิลเลอร์ → ควบคุมอุณหภูมิน้ำ ใช้ได้ตลอดปี แต่เพิ่มงบอีกหลักแสน

• ระบบคลุมสระอัตโนมัติ / เคาน์เตอร์เคอร์เรนต์ (เครื่องว่ายทวนกระแสน้ำ) → เพิ่มฟังก์ชันสุดล้ำ แต่ราคาขยับสูงอย่างรวดเร็ว

🔹 งานรอบสระ – เด็ค – หลังคาคลุม

• ขอบสระ/เด็ค: วัสดุมีตั้งแต่กระเบื้องเซรามิกจนถึงไม้สังเคราะห์หรือหินธรรมชาติ ราคาต่างกันชัดเจน

• หลังคาคลุมหรือกันฝน: โครงสร้างเหล็ก/กระจก/กัน UV → งบอาจบวกเพิ่มอีก 20–30% ของราคาสระ

🔹 ปัจจัยเวลา–ตลาด

• ฤดูฝน → งานก่อสร้างล่าช้า เสี่ยงต้องแก้งาน = งบบวม

• ราคาวัสดุ/ค่าแรง → เหล็ก ปูน กระเบื้อง อาจผันผวนตามตลาดโลก

• คิวผู้รับเหมาคุณภาพ → ถ้าคิวแน่น ต้องรอหรือต้องจ่ายแพงกว่า

---

3) วิธีคุมงบสร้างสระบ้านอย่างมืออาชีพ

หลายคนที่เริ่มต้นสร้างสระ มักเจอปัญหาคลาสสิกคือ “งบบานปลาย” เพราะไม่ได้วางแผนอย่างละเอียดตั้งแต่ต้น หากต้องการให้การสร้างสระเป็นไปอย่างราบรื่น ควรยึดแนวทางเหล่านี้

🔹 3.1 กำหนดโจทย์ชัดเจนก่อนลงมือ

ถามตัวเองให้ชัดว่า สร้างสระเพื่ออะไร?

• ใช้เพื่อ เล่นคลายร้อน/ครอบครัว → สระเล็ก 3×6 ม. Skimmer ก็เพียงพอ

• ใช้เพื่อ ออกกำลังกายจริงจัง → อาจต้องขนาดใหญ่กว่า 4×8 ม. หรือมีระบบเคาน์เตอร์เคอร์เรนต์

• ใช้เพื่อ โชว์วิว/ถ่ายรูป → Overflow หรือ Infinity Pool สวยหรูแต่ต้องเตรียมงบเพิ่ม

การกำหนดเป้าหมายชัดเจนจะช่วยให้คุณ “ล็อกสเปก” ได้ตรงความต้องการ ไม่เผลอเพิ่มออปชันที่ไม่จำเป็น

---

🔹 3.2 ล็อกสเปก–ทำ BOQ ให้ละเอียด

BOQ (Bill of Quantity) คือ รายการวัสดุและอุปกรณ์ที่ระบุอย่างชัดเจน เช่น ขนาดปั๊ม, ยี่ห้อเครื่องกรอง, ประเภทกระเบื้อง, ระบบไฟฟ้า ฯลฯ

• การทำ BOQ ช่วยให้คุณ เปรียบเทียบราคาได้จริง ระหว่างผู้รับเหมาหลายเจ้า

• ลดโอกาสการตีความคลาดเคลื่อน เช่น บางเจ้าเสนอราคาถูก แต่ใช้วัสดุเกรดต่ำ

• ระบุยี่ห้อ/รุ่นอุปกรณ์หลัก เช่น ปั๊ม, ฟิลเตอร์, ระบบเกลือ → เพื่อให้เทียบ “แอปเปิลกับแอปเปิล”

---

🔹 3.3 เลือกสิ่งที่คุ้ม ไม่ใช่แค่สวย

ไม่จำเป็นต้องเลือกตัวเลือกแพงเสมอไป สิ่งที่ “คุ้มค่า” มักอยู่ตรงกลาง เช่น

• สระสี่เหลี่ยม Skimmer → ราคาควบคุมง่าย ใช้งานทั่วไปได้ครบถ้วน

• กระเบื้องพอร์ซเลนกันลื่น → ราคาคุ้มกว่าหินธรรมชาติ แต่ทนทานและปลอดภัย

• ห้องเครื่องใกล้สระ → ลดความยาวท่อและค่าแรงในอนาคต

---

🔹 3.4 อย่าลดในสิ่งที่จำเป็น

บางส่วนแม้จะแพง แต่ถ้าลดแล้วจะมีค่าแก้ไขสูงกว่าเดิมมาก

• กันซึม → ถ้าไม่ทำให้ดี มีโอกาสรั่วซึม แก้ยากและแพง

• ระบบไฟฟ้ามาตรฐาน (RCD, สายดิน, หม้อแปลงไฟสระ) → เพื่อความปลอดภัย

• ท่อ–วาล์วคุณภาพดี → ป้องกันรั่ว แตก หรือเสื่อมเร็ว

• ฝาปิดดูดพื้น/ดูดผนังแบบกันติดร่างกาย → เรื่องความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรก

---

🔹 3.5 จ่ายเงินตาม Milestone ที่ตรวจสอบได้

การแบ่งงวดชำระเงินแบบ Milestone จะช่วยควบคุมงบสร้างสระบ้านและความเสี่ยง

• งวด 1: ขุด–งานโครงสร้าง

• งวด 2: กันซึม–ระบบท่อ–ไฟ

• งวด 3: ติดตั้งอุปกรณ์–ทดสอบระบบ

• งวด 4: ปิดผิว–เก็บงาน–ส่งมอบ

และควรเก็บ Retention 5–10% ไว้หลังส่งมอบ เพื่อให้ผู้รับเหมารับผิดชอบเก็บงานและแก้ไขหากมีปัญหา

---

🔹 3.6 เผื่อสำรองงบ 10–15%

แม้วางแผนดีแค่ไหน ก็มักมีค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึง เช่น สภาพดินที่อ่อนกว่าที่คิด, งานแก้ไขเล็กน้อย, ราคาวัสดุปรับขึ้น

• การเผื่อสำรองไว้ 10–15% ของงบรวม จะช่วยให้คุณไม่เจอปัญหา “เงินไม่พอหน้างาน”

• สำรองนี้ควรใช้เฉพาะกรณีจำเป็นจริงๆ เพื่อให้งบสร้างสระบ้านไม่บานปลายเกินควบคุม

---

✅ หากทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะสามารถ สร้างสระในงบที่ตั้งไว้ ได้จริง และยังมั่นใจได้ว่าคุณภาพงานออกมาคุ้มค่ากับการลงทุน

---

4) งบประมาณตัวอย่าง

🏊‍♂️ สระคอนกรีต 3×6 ม. (Skimmer + ระบบเกลือ)

สระขนาดนี้ถือว่าเป็น งบสร้างสระบ้านเริ่มต้น ที่เหมาะสำหรับบ้านพื้นที่จำกัด หรือครอบครัวเล็กๆ ที่เน้นใช้งานเพื่อคลายร้อนและออกกำลังกายเบาๆ

• งานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก + กันซึม: ~฿150,000–฿280,000

• ระบบท่อ–วาล์ว–อุปกรณ์ Skimmer: ~฿30,000–฿70,000

• ปั๊มและถังกรอง (ทราย/แก้ว): ~฿35,000–฿80,000

• ระบบเกลือ (Salt Chlorinator): ~฿35,000–฿90,000

• ไฟใต้น้ำ LED + หม้อแปลง: ~฿12,000–฿35,000

• ผิวสระ (กระเบื้องกันลื่น/พอร์ซเลน): ~฿50,000–฿120,000

• ขอบสระ/เด็คกระเบื้องรอบสระ 15–25 ม²: ~฿35,000–฿90,000

• ค่าควบคุมงาน + กำไรผู้รับเหมา: ~฿40,000–฿120,000

💰 รวมโดยประมาณ: ฿432,000–฿920,000
👉 งบระดับนี้ถือว่า “คุ้มค่า” สำหรับผู้ที่ต้องการสระบ้านแบบมาตรฐาน เน้นใช้งานจริง ไม่เน้นโชว์หรู

---

🏡 สระคอนกรีต 4×8 ม. (บ้านเดี่ยวมาตรฐาน)

ขนาดยอดนิยมสำหรับบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่มากขึ้น เหมาะกับครอบครัวใหญ่ ใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริง และรับแขกได้สะดวก

• งานโครงสร้าง + กันซึม: ~฿250,000–฿450,000

• ระบบท่อ–วาล์ว–ห้องเครื่อง: ~฿50,000–฿120,000

• ปั๊มและถังกรอง (ขนาดใหญ่ขึ้น): ~฿60,000–฿120,000

• ระบบเกลือ (Salt Chlorinator): ~฿50,000–฿110,000

• ไฟใต้น้ำ LED 2–3 จุด: ~฿20,000–฿50,000

• ผิวสระ (กระเบื้อง/หิน): ~฿80,000–฿200,000

• ขอบสระ/เด็คกระเบื้อง 25–40 ม²: ~฿60,000–฿150,000

• ค่าควบคุมงาน + กำไรผู้รับเหมา: ~฿70,000–฿200,000

💰 รวมโดยประมาณ: ฿800,000–฿1,500,000
👉 ถ้าเลือกเป็น ระบบ Overflow / Infinity Edge งบจะขยับเพิ่มอีก หลักแสนบาท เพราะต้องมีบ่อบาลานซ์ รางน้ำล้น ปั๊มเพิ่ม และงานกันซึมที่ซับซ้อนขึ้น

---

✅ การดู “งบตัวอย่าง” แบบนี้ ช่วยให้เจ้าของบ้านเข้าใจว่า งบสร้างสระบ้านเริ่มต้นไม่ได้มีแค่ราคาก้อนเดียว แต่เกิดจากหลายปัจจัยย่อย เช่น โครงสร้าง ระบบกรอง ผิวสระ และงานรอบสระ ซึ่งถ้าเลือกอย่างชาญฉลาด ก็สามารถควบคุมงบไม่ให้บานปลายได้

---

5) ค่าใช้จ่ายระยะยาว (TCO: Total Cost of Ownership)

การสร้างสระว่ายน้ำบ้าน ไม่ได้จบแค่ตอนก่อสร้างเสร็จ เพราะเจ้าของสระต้องเผื่อ งบดูแลรักษารายเดือน/รายปี ด้วย เพื่อให้สระใสสะอาดและใช้งานได้ยาวนาน โดยปกติแล้ว TCO ของสระบ้านขนาดเล็ก–กลาง จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่

🔹 1. ค่าน้ำ–ค่าไฟ

• ค่าไฟฟ้า: ส่วนใหญ่เกิดจากการเดินปั๊มหมุนเวียนน้ำและระบบบำบัด

  • สระ 3×6 ม. ใช้ปั๊ม ~0.75–1 แรงม้า → ค่าไฟเฉลี่ย ฿700–฿1,500/เดือน

  • สระ 4×8 ม. ใช้ปั๊ม ~1.5–2 แรงม้า → ค่าไฟเฉลี่ย ฿1,200–฿2,500/เดือน
    (ขึ้นกับระยะเวลาเปิดปั๊ม วันละ 6–12 ชั่วโมง)

• ค่าน้ำ: เติมทดแทนจากการระเหย/ล้างกรอง/น้ำที่กระเด็นออกไป

  • เฉลี่ย ฿100–฿400/เดือน สำหรับสระบ้านทั่วไป

• กรณีติดตั้งฮีตปั๊มหรือชิลเลอร์: จะมีค่าไฟเพิ่มอีกหลายร้อยถึงหลักพันต่อเดือน

---

🔹 2. ค่าเคมีภัณฑ์ / เกลือ

• สระระบบคลอรีน: ต้องซื้อคลอรีนเม็ด/ผง/น้ำ → เฉลี่ย ฿500–฿1,500/เดือน

• สระระบบเกลือ: ลงทุนเครื่องสร้างคลอรีนจากเกลือครั้งเดียว แต่ต้องซื้อเกลือเติม (ปีละ 2–3 ครั้ง) และเปลี่ยน Salt Cell ทุก 3–5 ปี

  • ค่าเกลือ ~฿500–฿1,000/ครั้ง

  • ค่าเปลี่ยน Salt Cell ~฿8,000–฿15,000 (ขึ้นกับรุ่น)

• สระระบบ UV/โอโซน/ไฮบริด: ค่าเคมีน้อยลง แต่มีค่าเปลี่ยนหลอด UV/อะไหล่ระบบไฟฟ้า

---

🔹 3. การบำรุงรักษาประจำ

• ล้างกรอง (Backwash): 1–2 ครั้ง/สัปดาห์ → มีค่าน้ำที่ใช้ล้างเพิ่มขึ้น

• ดูดตะกอน/แปรงผนัง: ควรทำสัปดาห์ละครั้ง → ถ้าไม่ทำเอง จ้างบริการ ~฿1,000–฿2,500/ครั้ง

• ล้างตะกร้าสกิมเมอร์/ปั๊ม: ทำประจำเพื่อป้องกันเศษใบไม้ขวางน้ำ

• ชุดทดสอบน้ำ (pH/คลอรีน/อัลคาไลนิตี): ~฿200–฿500/เดือน (ขึ้นกับความถี่การตรวจ)

---

🔹 4. ค่าอะไหล่และอุปกรณ์ตามอายุการใช้งาน

• ปั๊มน้ำ: อายุเฉลี่ย 5–8 ปี → ค่าเปลี่ยน ~฿10,000–฿25,000

• ถังกรอง: อายุเฉลี่ย 8–12 ปี → ค่าเปลี่ยน ~฿8,000–฿20,000

• ไฟใต้น้ำ: อายุการใช้งาน 3–5 ปี → ค่าเปลี่ยนหลอด/โคม ~฿3,000–฿8,000/จุด

• Salt Cell (ระบบเกลือ): 3–5 ปี → ~฿8,000–฿15,000

• ซีล–โอริง–วาล์วเล็กน้อย: มีค่าใช้จ่ายเป็นครั้งคราว (หลักร้อย–พันบาท)

---

✅ โดยรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายระยะยาวในการดูแลสระบ้าน ขนาดเล็ก–กลาง เฉลี่ยอยู่ที่ ฿1,000–฿3,000/เดือน หรือปีละ ฿12,000–฿36,000 (ไม่รวมค่าเปลี่ยนอะไหล่ใหญ่ที่มักเกิดทุก 3–5 ปี)

---

6) FAQ เกี่ยวกับงบสร้างสระบ้าน

Q: งบสร้างสระบ้านเริ่มต้นต่ำสุดได้เท่าไหร่?
A: โดยทั่วไป งบสร้างสระบ้านเริ่มต้นที่ประมาณ ฿400,000 สำหรับสระคอนกรีตขนาดเล็ก 3×6 เมตร ความลึกประมาณ 1.2–1.3 ม. พร้อมระบบ Skimmer และอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น ปั๊ม–กรองน้ำ และไฟใต้น้ำแบบมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังไม่รวมงานตกแต่งรอบสระ, เด็ค, หรือหลังคาคลุมสระ ดังนั้นหากต้องการความครบถ้วนจริง ควรเผื่อไว้ที่ ฿500,000–฿600,000 ขึ้นไป เพื่อป้องกันงบล้นหน้างาน

---

Q: Overflow คุ้มกว่าจริงไหม?
A: ระบบ Overflow หรือที่หลายคนเรียกว่า “สระขอบล้น” ช่วยให้ผิวน้ำดูเรียบเสมอกับขอบสระ น้ำใสดูหรูหรา และคุมความสะอาดผิวน้ำได้ดี เหมาะกับบ้านที่ต้องการความสวยงามและโชว์วิว
แต่การทำสระ Overflow ต้องเพิ่ม บ่อบาลานซ์, ระบบรางล้น, ปั๊ม และงานกันซึมพิเศษ ทำให้งบเพิ่มขึ้นอย่างน้อย หลักแสนบาท เมื่อเทียบกับสระ Skimmer
สรุปคือ ถ้าคุณต้องการสระบ้านที่ใช้งานจริง เน้นคุ้มค่าและดูแลง่าย Skimmer ถือว่าเหมาะกว่า แต่ถ้าบ้านของคุณออกแบบเพื่อโชว์หรือเป็นจุดไฮไลต์ของบ้าน Overflow ก็คุ้มค่าในเชิงความสวยงามและมูลค่าเพิ่มของตัวบ้าน

---

Q: ระบบเกลือดีกว่าคลอรีนหรือไม่?
A: ระบบเกลือ (Salt Chlorinator) ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสะดวกต่อผู้ใช้ ไม่ต้องเติมสารเคมีบ่อย และผิวน้ำมักรู้สึกนุ่มสบาย เหมาะกับบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ
ข้อดีอีกอย่างคือ ลดกลิ่นฉุนของคลอรีน ทำให้ว่ายน้ำได้เพลินขึ้น แต่ต้องลงทุนอุปกรณ์เพิ่มในช่วงแรก (เครื่องผลิตคลอรีนจากเกลือ + Cell) ซึ่งทำให้งบสร้างสระบ้านเริ่มต้นสูงกว่าคลอรีนแบบเติมมือ
ในระยะยาว ระบบเกลือช่วยลดความยุ่งยากในการดูแล แต่ก็มีค่าเปลี่ยน Salt Cell ทุก 3–5 ปี ส่วนระบบคลอรีน แม้เริ่มต้นถูกกว่า แต่ต้องใส่สารเคมีสม่ำเสมอและใช้เวลาในการดูแลมากกว่า

---

🔑 สรุป: งบสร้างสระบ้านเริ่มต้น และวิธีคุมงบให้อยู่มือ

การ สร้างสระว่ายน้ำที่บ้าน ไม่ได้เป็นเรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป ปัจจุบันมีหลายตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องงบประมาณ ดีไซน์ และการดูแลรักษา โดย งบสร้างสระบ้านเริ่มต้น สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไปในไทย อยู่ที่ประมาณ ฿400,000–฿1,500,000 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงราคาที่เหมาะสมกับสระขนาดเล็ก–กลาง เช่น สระคอนกรีต 3×6 ม. หรือสระคอนกรีตมาตรฐาน 4×8 ม.

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้อาจ “ขยับขึ้น” ได้ หากมีปัจจัยดังต่อไปนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง:

• ขนาดสระและความลึก → ยิ่งใหญ่ ยิ่งลึก = ค่าโครงสร้างและวัสดุสูงขึ้น

• ระบบ Overflow/Infinity → เพิ่มงานบ่อบาลานซ์ รางน้ำ และกันซึม ทำให้งบขยับหลักแสน

• งานกันซึม → ถ้าเลือกเกรดต่ำเกินไป อาจต้องแก้งานในอนาคต ซึ่งสิ้นเปลืองมากกว่า

• อุปกรณ์เสริม → เช่น ฮีตปั๊ม ไฟ RGB ระบบคลุมสระอัตโนมัติ มักเพิ่มงบทีละหมื่น–แสน

• งานรอบสระ → เด็ค หินธรรมชาติ หลังคาคลุมสระ มีผลอย่างมากต่อราคาสุดท้าย

เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการ คุมงบสร้างสระบ้านให้อยู่มือ ควรยึดแนวทางดังนี้:

1. กำหนดโจทย์การใช้งานชัดเจน → ว่ายออกกำลังกายจริงไหม? หรือเน้นเล่นคลายร้อน/เพื่อความสวยงาม

2. ล็อก BOQ และสเปกตั้งแต่ต้น → เพื่อให้เปรียบเทียบราคาได้ “แอปเปิลกับแอปเปิล” ไม่ใช่แค่ยอดรวม

3. เลือกสิ่งที่คุ้มค่า → เช่น สระสี่เหลี่ยม Skimmer + กระเบื้องกันลื่นคุณภาพดี มักคุ้มกว่า Overflow

4. ตัดสิ่งที่สวยแต่ไม่จำเป็น → เช่น ลูกเล่นพรีเมียมที่ใช้น้อย แต่เพิ่มงบมาก

5. เผื่อสำรองงบ 10–15% → กันความเสี่ยงจากราคาวัสดุ/งานแก้ไขหน้างาน

 

 

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญในการสร้างสระว่ายน้ำที่มีประสบการณ์และน่าเชื่อถือ และดูแลเราพร้อมให้คำแนะนำและบริการครบวงจรตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง ไปจนถึงการดูแลรักษาสระ เพื่อให้คุณได้สระว่ายน้ำที่สมบูรณ์แบบและใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำปรึกษาฟรี!

บริษัท เวิลด์พูลส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

• 261/5 ถ.มหิดล ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50100
• 053-204 446-7
• 095-6815757
• ไลน์ไอดี :   @worldpools
• FaceBook Page : World Pools สร้างสระว่ายน้ำ เชียงใหม่ อุปกรณ์สระ สระว่ายน้ำ ซ่อมสระ ดูแลสระ
• worldpoolscnx@gmail.com